หมอ (รักษา) โรคประสาท ตอนที่ 24 ลูกเป็นไมเกรน แม่เป็นโรคประสาท

หมอรักษาโรคประสาท

“เวลาลูกเจ็บ พ่อแม่เจ็บกว่าหลายร้อยเท่า” คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ผมเชื่อวาทุกคนที่มีลูกแล้ว เวลาลูกไม่สบาย เราจะคิดในใจหรือไม่ก็บอกกับลูก กับหมอว่า ถ้าพ่อแม่ป่วยแทนได้ ก็ขอป่วยแทน เพราะการเห็นลูกป่วยนั้น มันทรมานมากกว่าการเจ็บป่วยทางกายเสียอีก

ผมมีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นอาการปวดศีรษะไมเกรนชนิดมีอาการเตือนหรืออาการนำทางการมองเห็น (visual aura) โดยจะมีการมองไม่เห็นนำมาก่อนมีอาการปวดศีรษะ และตามด้วยอาการปวดศีรษะที่รุนแรง มีอาการอาเจียน และอ่อนแรงของแขนขาด้านซ้าย เมื่อนอนพัก นอนหลับได้ดี พอตื่นขึ้นมาอาการต่างๆ ก็หายเป็นปกติ คุณแม่ของน้องพาไปตรวจรักษาหลายที่ ได้ขอให้หมอตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เอมอาร์ไอสมองหลายครั้ง เพราะการตรวจก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ยิ่งทำให้คุณแม่ของผู้ป่วยมีความกังวลใจมากยิ่งขึ้น เพราะตรวจอะไรก็ไม่พบและอาการก็ไม่ดีขึ้น

ผมได้ทบทวนประวิติการเจ็บป่วย ผลการตรวจทางรังสีวินิจฉัย โดยการนำการตรวจเอมอาร์ไอทั้งหมดมาทบทวนใหม่ ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ เมื่อได้ทบทวนทั้งประวัติและผลการตรวจเพิ่มเติมแล้ว ก็สามารถให้การวินิจฉัยโรคกับน้องผู้หญิงและแม่ของน้องว่าอาการผิดปกติดังกล่าวนั้น มีสาเหตุการปวดศีรษะจากโรคไมเกรนชนิดมีอาการนำทางการมองเห็น และเป็นไมเกรนชนิดมีภาวะแทรกซ้อน แต่สามารถรักษาหายได้ครับ

เมื่อผมอธิบายเสร็จ ก็สอบถามน้องผู้หญิงว่า มีคำถามหรือข้อสงสัย ข้อกังวลใจอะไรหรือไม่ น้องก็บอกว่าเข้าใจดีครับ แต่คนที่เป็นทุกข์เมื่อฟังผมอธิบายจบแล้วคือคุณแม่ครับ คุณแม่บอกว่า แม่ยังทุกข์ครับ เพราะลูกต้องทานยาต่ออีกหลายเดือน ลูกจะได้รับผลเสียจากยาหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะหายหรือไม่ แล้วเมื่อหายแล้วจะเป็นซ้ำอีกหรือไม่ แล้วตอนสอบจะเป็นรุนแรงมากขึ้นหรือเปล่า ลูกอยากเรียนหมอจะเรียนได้หรือเปล่า ลูกจะไปเรียนขับรถ เรียนว่ายน้ำ ไปเที่ยวต่างประเทศ อดนอน ทานไอศครีม กล้วยหอมได้หรือไม่

และคำถามอีกมากมาย หลายสิบคำถาม จนผมมึนไปเลยครับ เมื่อคุณแม่ถามจบ ผมก็เลยพูดกับคุณแม่ไปว่า “คุณแม่ครับ ผมเข้าใจความรู้สึก ความกังวลที่แม่มีนะครับ เพราะลูกผมก็เคยเจ็บป่วย นอนโรงพยาบาลมาก่อน แต่การที่เรากังวลใจอะไรที่มากเกินไป มันก็ทำให้เราแย่นะครับ สิ่งต่างๆ ที่มันยังไม่เกิดก็อย่าไปกังวลมากเกินไปครับ การที่เรากังวลมากแบบนี้ อาจส่งผลให้ลูกเรามีความทุกข์กายทุกข์ใจเพิ่มมากขึ้นได้นะครับ เราควรเดินทางสายกลางนะครับ เราทราบแล้วว่าเป็นโรคอะไร เรารักษาอย่างถูกต้อง เราลดความวิตกกังวล ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษานะครับ เชื่อผมเถอะครับว่าโรคปวดศีรษะไมเกรนนั้นไม่รุนแรงอย่างที่แม่กังวลครับ รักษาหายได้แน่นอน ผมไม่อยากให้ลูกเป็นเพียงแค่ไมเกรน แต่แม่จะเป็นโรคประสาทแทนครับ แม่อย่าโกรธผมนะครับ ผมอยากให้แม่และลูกหายดีครับ”