หมอ(รักษา)โรคประสาท ตอนที่ 21 ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว

หมอรักษาโรคประสาท

คำกล่าวที่ว่าทำอะไรอยู่ที่ใจนั้น เป็นจริงแน่นอน แม้กระทั่งเรื่องสุขภาพครับ ผมมีผู้ป่วยชายสูงอายุท่านหนึ่งมีปัญหาเป็นโรคอัมพาต มีแขนขาด้านขวาอ่อนแรง ช่วยเหลือตนเองไม่คอยได้ ต้องให้ภรรยาช่วยตลอดในช่วงแรกของการเข้ารักษาในโรงพยาบาล แต่ด้วยความตั้งใจของผู้ป่วยที่มีความมุ่งมั่นว่า สุดท้ายเราต้องเดินได้ เราต้องกลับไปทำงานให้ได้ เราต้องดูแลครอบครัวให้ได้เหมือนเดิม เราต้องขับรถส่งลูกไปโรงเรียนให้ได้ และเราต้องกลับไปทำงานหน้าที่เหมือนเดิมให้ได้

ผู้ป่วยได้สั่งให้คนที่บ้านยกเครื่องออกกำลังกายมาไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้ทำการออกกำลังกายให้ได้มากที่สุด เพราะการทำกายภาพบำบัดเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอในความคิดของผู้ป่วย ยิ่งทำมากที่สุดเท่าไหร่ ยิ่งดี ยิ่งฟื้นตัวได้เร็ว เมื่อคิดได้ตามนั้น ผู้ป่วยก็เริ่มการออกกำลังกายอย่างมุ่งมั่น ตลอดเวลาที่ผมเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วย ผู้ป่วยไม่เคยนอนอยู่บนเตียงเลย พยายามออกกำลังกายทุกอย่าง ทั้งถีบจักรยานอยู่กับที่ การฝึกเดิน การเดินบนสายพานแบบช้าๆ และการบีบมือออกกำลังกายส่วนมือ พยายามใช้คอมพิวเตอร์ พยายามใช้งานมือข้างที่ไม่มีแรง สลับกับการฝึกใช้มือด้านซ้าย เรียกว่าพยายามทำทุกๆ อย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ตนเองมีอาการดีขึ้น

ผมได้สอบถามผู้ป่วยว่าก่อนหน้านี้ออกกำลังกายแบบนี้หรือไม่ เห็นมีอุปกรณ์การออกกำลังกายหลายอย่างที่บ้าน คำตอบคือไม่ครับ แต่ซื้อมาไว้ที่บ้าน เพื่อให้อุ่นใจ แต่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย พอเจ็บป่วยได้นอนโรงพยาบาล มีเวลามากพอ จึงได้อออกกำลังกายอย่างมาก สิ่งที่ผู้ป่วยได้จากการออกกำลังกายในขณะที่นอนโรงพยาบาล คือ การไม่เสียเวลา ไม่รู้สึกว่าตนเองป่วย แต่ได้มาพักผ่อนในโรงพยาบาลเพื่อดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างเต็มที่ ได้ทบทวนตนเองว่าที่ผ่านมานั้นไม่ได้ดูแลสุขภาพเลย และประโยชน์ข้อสุดท้าย คือ ได้พิสูจน์ว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขนาดแขนขามีแรงไม่เต็มที่เรายังออกกำลังกายได้อย่างดี

และผลพลอยได้จากการออกกำลังกายอย่างมุ่งมั่น ทำให้อาการอ่อนแรงของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างรวดเร็วครับ เพียงระยะเวลาเพียง 1 เดือน ผู้ป่วยหายเกือบเป็นปกติ สามารถกลับไปทำงานได้ในหน้าที่เดิม แถมเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม เลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกนอนดึก ลดความเครียดลงได้ เป็นผู้นำครอบครัวที่ดีกว่าเดิม

ผมจึงอยากบอกทุกคนว่า ถ้าเราสามารถเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสได้ไม่ยากครับ เพียงแค่เราเปลี่ยนมุมมอง และให้ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ก้าวทุกก้าวที่เราเดินนั้น เราเดินด้วยใจ