หมอ(รักษา)โรคประสาท ตอนที่ 13 ยาสมุนไพรบำรุงเลือด

หมอรักษาโรคประสาท

“สวัสดีครับวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดูหน้าตาสดใสขึ้น ไม่มีอาการชักหรือเปล่า ถึงดูสดใสขึ้น ไม่ซีดเซียวเหมือนครั้งก่อน” ผมทักทายคนไข้ขาประจำรักษามานานมากกว่า 10 ปี ผู้ป่วยรายนี้ไม่เคยควบคุมอาการชักได้เลย สาเหตุของการชัก คือเป็นโรค เอส แอล อี (SLE) ที่ควบคุมได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่น้องผู้หญิงจะซูบผอมตลอดเวลา ไม่ค่อยยอมทานข้าว มาพบผมที่ไหรก็จะขอแต่ยาบำรุง เพราะอ่อนเพลียมากๆ ซูบผอมมากๆ แต่ก็ไม่ชอบทานอาหาร ชอบหายาบำรุงทาน ผู้ป่วยจะทานยาบำรุงสารพัดชนิดที่หาได้ ไม่ว่ายาบำรุงที่ได้จากหมอ ยาบำรุงที่ซื้อทานเอง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถซื้อทานได้ และล่าสุดก็สมุนไพรที่ชื่อว่า “หมอ….” ก็ทานมาหลายขวด ถึงขนาดนั่งรถจากขอนแก่นไปหาถึงกรุงเทพ เพื่อให้เห็นหน้าหมอ ….ตัวจริง เสียงจริง เสียค่ายาไปหลายพัน

“คุณหมอว่าหนูดูดีขึ้นจริงๆ เหรอ ไม่ได้หลอกหนูนะ เพราะหนูได้ทานยาสมุนไพร หมอ …. มาหลายขวดแล้ว หลายๆคนก็ทักว่าดูดีขึ้น แต่ตัวหนูว่าไม่เห็นจะดีขึ้นเลย ชักก็เป็นบ่อย ปวดศีรษะไมเกรนก็เป็นมากขึ้น ผลตรวจเลือดก็ยังซีดอยู่ หนูอยากได้ยาบำรุงจากหมออีกค่ะ”

อ้าวย้อนกลับมาขอยาบำรุงหมออีก ปัจจุบันเป็นยุคอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครับ จะเห็นจากชื่อก็บอกแล้วนะครับว่าไม่ใช่ยา เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ทานเสริมขึ้นมานอกจากการทานอาหาร แต่ว่าผลิตภัณฑ์นี้ดีจริงหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ คือ แพงกว่ายาหมออีก และก็อาจแพ้ได้ มีการตีกันระหว่างยาหมอกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ อย่างของน้องคนนี้ก็ทานยากันชักร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพรหมอ ….. แล้วก็ชักมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เลิกทาน ผมจึงถามเหตุผลน้องว่าทำไมยังไม่เลิกทานอีก เมื่อรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ดีขึ้น

“ที่หนูยังทานสมุนไพรนี้ต่อก็เพราะว่า ตอนแรกที่ซื้อมานั้นมีหลายขวด หมอ…แนะนำว่าต้องค่อยๆ ทานทีละขวด ขวดแรกอาจยังไม่เห็นผล ต้องทานไปหลายๆ ขวดก่อน ตอนนี้หนูเพิ่งเริ่มทานยาขวดที่ 3 เอง ยังเหลืออีกตั้ง 3 ขวด หนูเลยตั้งใจว่าจะทานให้ครบก่อน ตามที่หมอ ….แนะนำ เพราะวันนั้นที่หนูไปพบ คุณหมอ ….เป็นคนตรวจหนูเอง บอกว่าทานครบ 6 ขวด รับรองดีขึ้นแน่ๆ แม่หนูก็เลยซื้อมายกชุดเลย 6 ขวด”

ผมได้ยินแล้วรู้สึกชื่นชมหมอ…จริงๆ ที่มีคำแนะนำที่ยอดเยี่ยม และทำให้ผู้ป่วยเชื่อ ปฏิบัติตามด้วย ในขณะที่เราแนะนำแล้วไม่รู้กี่รอบ ก็ไม่มีใครเชื่อ เพลียจริงๆ อย่างไรก็ตามผมก็ยังต้องแนะนำน้องเขาให้เลิกทานสมุนไพร หมอ…. เพราะไม่น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ และน่าจะมีโทษมากกว่า อย่างน้อยค่ายา 6 ขวดที่ซื้อมาก็เกือบหมื่นบาท ตรงนี้เองหรือเปล่าที่ผู้ป่วยถึงอยากทานสมุนไพรให้หมด 6 ขวด แต่ยาที่ได้จากโรงพยาบาลไม่ค่อยยอมทาน เพราะไม่ต้องซื้อเลย ได้ฟรีหมด ไม่เคยทราบมาก่อนว่ายาที่ได้นั้นก็หลายพันต่อเดือน เพียงแต่ไม่ได้จ่ายเอง เป็นเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทศจ่ายแทน ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นเงินของตนเองเหมือนกัน

ทุกวันนี้เวลาที่ผมดูคนไข้ในเกือบทุกๆ ราย จะต้องถามประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวและอื่นๆ ที่ถูกสอนมาสมัยเป็นนักเรียนแพทย์ และสุดท้ายก็ต้องถามเรื่องสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในผู้ป่วยด้วยเสมอ เพราะเป็นที่นิยมทานกันมาก ทั้งๆ ที่ราคาก็แพง ประโยชน์ก็ไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อ ความนิยม บอกต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง

ต้องมาช่วยกันครับ ทำให้สังคมไทยมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพตนเองครับ