หนูตัวเล็กแต่ก่อเหตุใหญ่ (ตอนที่ 6)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 20 ธันวาคม 2559
- Tweet
นอกจากนี้อาจพบอาการอุจจาระร่วงและมีเลือดปน ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ กรณีที่ความต้านทานต่ำจะเกิดอาการแพ้ได้
การวินิจฉัยทำได้ด้วยการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ สำหรับการรักษาทำได้ด้วยการถ่ายพยาธิ
ส่วนการป้องกันทำได้ด้วยการกินอาหารที่สุกและสะอาด อาหารที่ไม่คิดว่ามีแมลงหรือหมัดหนูตกลงไปในอาหาร
โรคติดเชื้อไวรัสฮันตา (Hantavirus Pulmonary Syndrome = HPS) เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่ปอด บางครั้งทำให้เสียชีวิตได้ คนที่สัมผัสกับสัตว์กัดแทะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่สูง แม้ว่าจะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงก็ตาม
คนสามารถติดเชื้อโดย
- การหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าไป (Airborne transmission)
- โดนกัด (พบยาก)
- สัมผัสกับของที่มีการปนเปื้อนของปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ แล้วนำมือนั้นมาสัมผัสกับจมูกและปากของตัวเอง
- กินอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ
- แต่ไม่มีการติดเชื้อจากคนสู่คน
กิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคติดเชื้อไวรัสฮันตา ได้แก่
- การเข้าทำความสะอาดตึกร้าง โรงนา โรงรถ หรือห้องเก็บของ ที่ถูกปิดและไม่ได้ใช้งาน
- การทำความสะอาดบริเวณรอบบ้าน
- คนที่ทำงานก่อสร้าง กำจัดแมลง ที่ต้องคลาน หรือ ตึกร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยของหนู
เนื่องจากมีการพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสฮันตาไม่มากนัก จึงไม่ทราบระยะเวลาฟักตัวที่แน่นอน แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 1-8 สัปดาห์หลังการสัมผัสกับปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยอาการเริ่มต้น ได้แก่
- อ่อนเพลีย
- เป็นไข้
- ปวดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ต้นขา สะโพก หลัง ไหล่
- ปวดศีรษะ
- หนาวสั่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสีย ปวดท้อง
บรรณานุกรม
1. Hymenolepis diminuta. http://eol.org/pages/2923808/details [2016, December 19].
2. Hantavirus Pulmonary Syndrome (HPS) - Topic Overview. http://www.webmd.com/lung/tc/hantavirus-pulmonary-syndrome-hps-topic-overview [2016, December 19].