หนูตัวเล็กแต่ก่อเหตุใหญ่ (ตอนที่ 13)

หนูตัวเล็กแต่ก่อเหตุใหญ่

การรักษาโรคไข้รากสาดใหญ่ด้วยยาปฏิชีวนะเป็นวิธีที่มีประสิทธิผลมากและไม่ค่อยกลับมาเป็นซ้ำหากได้รับยาอย่างเต็มคอร์ส การรักษาที่ช้าหรือวินิจฉัยโรคได้ช้าสามารถทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นได้

การป้องกันโรคไข้รากสาดใหญ่ทำได้โดย

  • รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
  • ควบคุมประชากรหนูที่เป็นตัวพาหะของสัตว์ขาปล้อง
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังที่ที่มีโรคระบาดหรือที่มีความเสี่ยงสูงเพราะขาดสุขอนามัยที่ดี
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ไล่เห็บหรือแมลง (Tick and insect repellant)

กรณีที่มีความเสี่ยงสูงอาจการให้ยาป้องกัน (Chemoprophylaxis with doxycycline)โรคซัลโมเนลโลซิส (Salmonellosis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Salmonella เชื้อนี้จะอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์ เราสามารถติดเชื้อได้หลายทาง เช่น

  • การกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ ซึ่งมีทั้งการติดเชื้อที่ตัวอาหารเอง การติดเชื้อจากอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว เช่น เขียง มีด เป็นต้น
  • การสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อแล้วไม่ได้ล้างมือ แม้ว่าสัตว์นั้นจะดูสะอาดและมีสุขภาพดี

ภายใน 12-72 ชั่วโมง ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการ

  • ท้องเสีย
  • เป็นไข้
  • ปวดท้อง

อาการจะเป็นอยู่นาน 4-7 วัน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสามารถหายได้เอง แต่บางกรณีถ้ามีอาการท้องเสียมากอาจจำเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล กรณีที่เชื้อกระจายจากลำไส้ไปตามส่วนอื่นของร่างกาย (ประมาณร้อยละ 8 ของผู้ติดเชื้อ) อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ นอกจากจะมีการรักษาอย่างทันท่วงที เช่น

  • การติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะเลือดมีแบคทีเรีย (Bacteremia)
  • การติดเชื้อที่สมองและไขสันหลัง ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
  • การติดเชื้อในกระดูก ทำให้กระดูกอักเสบ (Osteomyelitis)
  • การติดเชื้อในข้อ ทำให้เป็นโรคข้ออักเสบติดเชื้อ (Septic arthritis)

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงได้ ก็คือ ทารกหรือเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ

ผู้ป่วยที่ท้องเสียจากเชื้อ Salmonella มักจะฟื้นตัวได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาหลายเดือนที่ช่องท้องจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีผู้ป่วยน้อยรายที่เกิดอาการปวดข้อหรือที่เรียกว่า โรคข้ออักเสบรีแอคตีฟ (Reactive arthritis) ซึ่งอาจเกิดเป็นเดือนหรือเป็นปี และสามารถทำให้เกิดโรคปวดข้อเรื้อรังที่รักษายาก นอกจากนี้คนที่เป็นโรคข้ออักเสบรีแอคตีฟสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองในตาและปวดตอนปัสสาวะได้

บรรณานุกรม

1. Typhus. http://www.healthline.com/health/typhus#Causes2 [2016, December 26].

2. Salmonella. http://www.cdc.gov/salmonella/ [2016, December 26].