สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: ตาบอด (Blindism)

สาระน่ารู้จากหมอตา

คนตาบอด(Blindism)โดยเฉพาะที่เป็นแต่เด็ก ไม่เคยมองเห็นมาก่อน แม้จะปรับตัวและมีสภาพจิตใจที่ดีกว่าคนตาบอดที่เกิดในภายหลัง คนตาบอดกลุ่มนี้มักจะมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากคนตาดี ซึ่งบางอย่างควรจะแก้ไขเพื่อว่าเขาจะสามารถอยู่ในสังคมเดียวหรือเหมือนคนปกติได้ พฤติกรรมแปลกๆ ต่างๆ ได้แก่

  1. เอานิ้วกดที่บริเวณลูกตา (oculo-digital reflex) ทั้งนี้เชื่อว่าการใช้นิ้วกดที่ลูกตาจะไปกระตุ้นจอตาที่บุอยู่ภายในลูกตา จอตาเมื่อถูกกระตุ้น (โดยปกติคนตาดีจะมีแสงจากวัตถุมากระตุ้น) ไม่ว่าจอตาถูกกระตุ้นจากนิ้วกดหรือจากแสงจะแปลผลออกมาว่ามีแสงสว่างอยู่ข้างหน้า เด็กตาบอดจะชอบเพราะว่าตาเริ่มเห็นแสงจึงใช้นิ้วกดลูกตาเสมอๆ ทำให้เปลือกตาสีคล้ำ ลูกตาลึกกว่าคนปกติ
  2. ชอบอยู่ที่เงียบๆ หรือหลบมุมอยู่ในที่เงียบๆ คนเดียว เพราะความเหงา
  3. เวลานั่งมักจะโยกตัวไปมา ยุกยิก พยักหน้า สั่นหัว กระโดด กระแทกตัวเอง หมุนตัวไปมา ตบมือ ในลักษณะที่เรียกกันว่าอยู่ไม่สุข บางคนเชื่อว่าเด็กตาบอดอาจจะไม่รู้ตำแหน่งของตัวเองจาก การเห็น การโยกตัวเปลี่ยนอิริยาบถจะกระตุ้น vestibular function ของหู ทำให้รู้ตำแหน่งของตัวเอง จึงมักจะโยกตัวตลอดเวลา
  4. เวลาคนตาบอดเดิน มักจะเอามือยื่นไปข้างหน้า เพราะใช้มือในการระมัดระวังที่จะชนสิ่งกีดขวาง เวลาเดินจะแกว่งแขนผิดไปจากคนปกติ ซึ่งควรจะรับการอบรมในหัวข้อ orientation and mobility ในหลักสูตรของการปรับตัวของคนตาบอด
  5. เด็กตาบอดชอบดมสิ่งของซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมใช้การสัมผัสจากกลิ่นเพื่อเรียนรู้วัตถุต่างๆ ซึ่งบางคนอาจเห็นว่าผิดปกติ ในหลักการ เด็กตาบอดควรสนับสนุนให้เขาเรียนรู้จากอวัยวะสัมผัสที่เหลืออยู่ จึงไม่น่าจะห้ามปราม
  6. เวลาทักทายกัน มักจะตรงเข้ามาจับมือ จับต้องร่างกายคู่สนทนาซึ่งบางครั้งอาจแลดูไม่สุภาพ ชอบจ้องแสงไฟ (light gazing) เพื่อให้ตาเห็นแสงสว่างบ้าง
  7. บางคนเชื่อว่า คนตาบอดมักมีประสาทหูที่ดีกว่าคนปกติ คงไม่เป็นเช่นนั้น
  8. แต่เมื่อประสาทรับรู้การเห็นเสียไป อาจใช้การได้ยินมากขึ้น จึงเสมือนว่า มีประสาทหูดีกว่าปกติ ฯลฯ

โดยสรุป พฤติกรรมต่างๆ ที่คนปกติไม่ทำกัน เด็กตาบอดมักจะทำและทำซ้ำๆ จาก ความเหงา การต้องการรู้สภาพของตัวเอง ความเบื่อหน่าย การต้องการค้นหาสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดจินตนาการ (คนตาดี ใช้การมองเห็นวัตถุก่อให้เกิดจินตนาการได้) รวมทั้งเรียกร้องความสนใจ ต้องการสื่อให้ผู้อื่นรู้ถึงความต้องการ เช่น พอใจ ไม่พอใจ โกรธ จึงมักแสดงพฤติกรรมต่างๆออกมา

โดยทั่วไปพฤติกรรมต่างๆ ควรจะแก้ไข หรือควรระงับหรือไม่ อยู่ที่ว่าพฤติกรรมนั้นทำร้ายเด็กหรือไม่ จะกลายเป็นนิสัยทำให้ตนเองผิดไปจากสังคมคนปกติ เช่น การชอบดม ชอบจับคลำสิ่งของเป็นการเรียนรู้อาจจะต้องปล่อยให้ทำ หากมีอันตราย เช่น กดลูกตาบ่อยๆ อาจทำร้ายดวงตา คงต้องพยายามให้ลดลงโดยการเบนความสนใจออกไปทางอื่น

วิธีขจัดพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไปของเด็กกลุ่มนี้ ควรทำโดย

  1. ให้คำแนะนำผู้ปกครองทราบถึงพฤติกรรมที่อาจมีโทษต่อเด็ก
  2. พาเด็กออกไปพบปะผู้คนมากๆบ้าง ให้เด็กมีการเคลื่อนไหว ลดความเบื่อ ความเหงา จะได้ลดพฤติกรรมเหล่านั้นลง
  3. ตรวจดูระดับความสามารถของเด็ก ป้อนกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย ตามความสามารถของเด็ก อย่าปล่อยทิ้งเด็กอยู่ตามลำพังนานๆ
  4. ควรทำความเข้าใจเด็กให้มาก ทราบถึงความต้องการ ไม่ต้องการ หรือชอบไม่ชอบอะไร
  5. ปรับการเรียนรู้ ให้เด็กมีการบันเทิงตามวัยเพื่อลดความเหงาและความเบื่อหน่ายลง