สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: ตาเป็นสนิม

สาระน่ารู้จากหมอตา

นายดำอายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอุดรธานี แต่มาทำงานเป็นช่างซ่อมปะผุรถยนต์ในกรุงเทพฯมาเป็น 10 ปี มาตรวจตาด้วยอาการที่ว่ารู้สึกตาขวาพร่ามัวลงอย่างช้าๆในระยะ 1 ปี โดยไม่เจ็บ ไม่ปวด ตาไม่แดง แต่ค่อยๆมัวลง จนมาระยะเดือนที่ผ่านมา ทำงานไม่คล่องเหมือนเดิม กะระยะไม่ค่อยถูก ลองทดสอบการมองเห็นพบว่าตาขวาพร่ามัวมากเมื่อเทียบกับตาซ้าย ผลการตรวจตาขวาพบว่าสายตาเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของตาซ้าย ผลการตรวจพบว่ามีทั้งต้อกระจกและต้อหินในตาขวา สีม่านตาขวาเข้มกว่าตาซ้าย แก้วตาที่เป็นต้อกระจกมีสีเข้มกว่าปกติ ลักษณะบ่งว่าในลูกตามีสนิมเหล็กติดอยู่ตามอวัยวะภายในลูกตา ซึ่งสะท้อนว่าภายในลูกตาน่าจะมีเศษเหล็กฝังอยู่ แน่นอนควรจะมีรอยแผลเข้าบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ตรวจพบรอยแผลที่น่าจะเป็นทางเข้าบริเวณตาขวา ห่างจากขอบตาดำประมาณ 5 มม. จากการพบพังผืดบริเวณนั้น

การเกิดสนิมในดวงตา (siderosis) บ่งว่าเศษเหล็กต้องฝังอยู่ในตานานพอสมควร ถึงแม้จะถามประวัติว่ามีเศษเหล็กกระเด็นเข้าตาหรือไม่ ผู้ป่วยจำไม่ได้เลยว่ามี เมื่อมีทางเข้า จึงตรวจละเอียดด้วยการขยายม่านตา จึงพบเศษเหล็กหุ้มด้วยพังผืดวางอยู่บนจอประสาทตาใกล้ ๆ บริเวณทางเข้าที่พบ จึงสรุปว่าผู้ป่วยนี้ มีเหล็กภายในลูกตาจาก

  1. ประวัติที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเศษเหล็ก ประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยมีความสำคัญมากในการวินิจฉัยโรคหลายๆโรค
  2. แม้ประวัติมีอะไรกระเด็นเข้าตาไม่ชัดเจน เป็นเพราะผงเหล็กขนาดเล็ก เมื่อกระเด็นเข้าตาความเร็วจะทะลุเข้าตาทันทีแล้วไปหยุดที่ผนังตาด้านใน รูแผลเข้ามีขนาดเท่ารูเข็ม จึงสมานได้รวดเร็ว ไม่มีแผลให้เห็นชัดเจน อาจไม่มีเลือดออกให้เห็น หรือบางรายอาจมีเลือดซึมอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหมอตาทุกท่านเมื่อมีประวัติแบบนี้จะต้องพยายามหารอยโรคซึ่งนานเข้าเริ่มจางไปก็ตาม
  3. พบภาวะสนิมภายในตาชัดเจน
  4. มีทั้งต้อกระจกและต้อหิน เพราะสนิมเหล็กไปจับที่แก้วตาและตระแกรงการไหลเวียนของน้ำภายในตา
  5. พบวัตถุแปลกปลอม/เศษเหล็กวางอยู่ที่จอตา ในบางรายอาจมองไม่เห็น ต้องใช้ X-ray ช่วย โดยที่เศษเหล็กเป็นสารทึบแสง จึงมักเห็นจากการ X-ray หากขนาดเล็กมาก X-ray ธรรมดาไม่เห็น อาจต้องทำ X-ray computer (CT)

ในบรรดาธาตุทั้งหลาย ทองแดง และเหล็ก เมื่ออยู่ภายในตา ก่อให้เกิดผลเสียตาม คือ อาจตาบอด หากมีประวัติทำงานที่เกี่ยวข้องกับธาตุทั้ง 2 แล้วมีการพลัดเข้าไปในตา จำเป็นต้องเอาออก โดยเฉพาะเหล็ก พบได้มากเพราะมีในโรงงานทั่วไป

เมื่อเศษเหล็กฝังอยู่ภายในตา อนูของเหล็กจะแทรกซึมไปในเซลล์ต่างๆ ภายในตาทำให้เนื้อเยื่อตาเสื่อมเสีย ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน จอตาเสื่อม ฯลฯ ทำให้ตาบอดในที่สุด

ผู้ป่วยรายนี้ ต้องรักษาโดยการเอาเศษเหล็กออก ตามด้วยการรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น

ที่เล่ามา เป็นอุทาหรณ์ว่า หากทำงานที่เกี่ยวกับเศษเหล็กที่อาจกระเด็นเข้าตาโดยแม้ไม่มีอาการผิดปกติ ก็ควรไปรับการตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีเศษเหล็กค้างอยู่ในตา อย่างไรก็ตาม การทำงานอย่างนี้ควรปกป้องตาด้วยการใส่แว่นนิรภัยขณะทำงานจะดีที่สุด