สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: ตรวจตาพบโรคทางสมอง

สาระน่ารู้จากหมอตา

เด็กชายแดง อายุ 10 ปี อนามัยโรงเรียนมาวัดสายตา พบว่าเด็กชายน่าจะมีปัญหาสายตา แนะนำไปรับการตรวจวัดสายตา เพราะอ่านตัวเลขไม่ได้เท่าที่ควร อีกทั้งเด็กมักบ่นว่าปวดศีรษะบ่อยๆ เมื่อแพทย์พบเด็ก การตรวจเริ่มด้วยการทดสอบให้อ่านตัวเลขบนแผ่นภาพ วัดสายตา เด็กพยายามหยีตาอ่านตัวเลขได้ 3 บรรทัด เมื่อมองภาพรูเล็กๆ (pinhole) ของเครื่องมือหมอ พบว่าอ่านได้เพิ่มขึ้นอีก 2 บรรทัด ซึ่งบ่งว่าเด็กน่าจะมีสายตาผิดปกติจริง ๆ จึงทำการวัดสายตาโดยการขยายม่านตาด้วยยาเพื่อลดการเพ่ง อันจะทำให้วัดสายตาได้แม่นยำขึ้น (เป็นหลักทั่วไปก่อนที่จะทำแว่นสายตาอันแรกให้เด็ก) ผลการตรวจพบว่าเด็กมีสายตาสั้น 200 ทั้ง 2 ข้าง ระหว่างการตรวจได้ตรวจจอตา และขั้วประสาททั้ง 2 ข้างไปด้วย ต้องตกใจที่พบภาวะขั้วประสาทตาบวมทั้ง 2 ข้าง (papilledema) จึงย้อนถามประวัติถึงอาการปวดศีรษะรุนแรงถึงขั้นมีอาเจียนในบางครั้งหรือไม่ คุณแม่ให้ประวัติว่า เด็กปวดศีรษะเวลาอ่านหนังสือมาก ๆ จึงเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับสายตาที่คิดว่าไม่รุนแรง จึงปล่อยเรื่อยมาราว 5 เดือน จึงได้พามาวัดสายตา เมื่อตรวจพบขั้วประสาทดังกล่าวจึงแนะนำให้ไปพบหมอเด็กที่ชำนาญระบบประสาทก่อน เพราะดูจะเป็นเรื่องใหญ่กว่า

เด็กคนนี้หายไป 2 ปี กลับมาหาใหม่พร้อมทั้งขอบคุณที่แนะนำไปรับการตรวจเพิ่มเติม เพราะเด็กเป็นเนื้องอกในสมอง ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย โชคดีตามที่แม่เด็กบอกว่า เป็นเนื้องอกไม่ร้ายแรง แต่ยังต้องติดตามเป็นระยะๆ แต่ได้รับการรักษาได้เร็ว

ผู้ป่วยเด็กรายนี้บอกให้ทราบว่า การตรวจตามีความสำคัญอย่างไร

  1. ตาเป็นหน้าต่างของอารมณ์ ของจิตใจ จะเห็นว่าตายิ้มแย้ม แสดงความเป็นมิตร ตาโตเกินตาขาว แสดงความตกใจ ตาบึ้งตึง แสดงความโกรธ เป็นต้น
  2. ตาบ่งบอกถึงโรคทางกาย ตาเหลือง เป็นโรคตับ ดีซ่าน, เยื่อตาซีด เป็นโรคเลือด, ตาแดงเพราะพิษไข้, มีวงขาวที่ตาดำบ่งว่าไขมันในเลือดสูง
  3. ตา เป็นที่ซึ่งเราสามารถเห็นหลอดเลือดโดยตรง ซึ่งสะท้อนให้ทราบถึงความผิดปกติของหลอดเลือดทั้งร่างกาย เช่น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแดงแข็งตัว พร้อมที่จะอุดตัน การตรวจเลือดที่จอตาจะพบลักษณะชัดเจน
  4. ตาเป็นอวัยวะต่อจากสมอง ความผิดปกติของสมอง จึงอาจแสดงออกที่ตา ทำให้ได้รับการวินิจฉัยได้รวดเร็ว

สรุป: ตรวจตาปีละครั้ง คงจะดีทั้งการมองเห็น และการตรวจพบโรคทางกายบางอย่างได้รวดเร็ว