สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน: Second sight (สายตากลับ)

สาระน่ารู้จากหมอตา

คุณตามี อายุ 68 ปี เกษียณอายุมา 8 ปีแล้ว ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ใช้ชีวิตวันหนึ่งๆ ด้วยการอ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้รอบบ้าน คุณตาอ่านหนังสือโดยการใช้แว่นสายตาสำหรับผู้สูงอายุมาตั้งแต่อายุ 40 ต้นๆ และใช้แว่นอ่านหนังสือมาตลอด (ตาเปล่ามองไม่เห็น) มาวันหนึ่งคุณตาพบว่าสามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องใส่แว่น สายตาอ่านหนังสือดีกว่าลูกสาวที่อายุ 45 ปี เสียอีก คุณตามี ดีใจคิดว่าสายตากลับเป็นหนุ่มใหม่ สายตาของคุณตาที่กลับมาอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องใช้แว่น ฝรั่งเรียกกันว่า second sight หมายถึงสายตากลับมาดีเหมือนตอนอายุยังน้อย ที่เป็นเช่นนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากตาเริ่มมีการเสื่อมของแก้วตา ที่เรียกกันว่า โรคต้อกระจก กล่าวคือ แก้วตาคนเราตอนเกิดมาจะใส มีกำลังหักเหแสงทำให้เรามองเห็นวัตถุ เมื่อใช้งานนานเข้าเกิดความเสื่อมของแก้วตา ความใสลดลง กลายเป็นขุ่นมัวทีละน้อย บางคนอาจจะเปรียบเทียบความเสื่อมของแก้วตา คล้ายผมที่มักจะหงอกขาว เมื่ออายุมากขึ้น เราห้ามผมมิให้หงอกขาวไม่ได้ แก้วตาคนเราก็เช่นกันจะเริ่มเสื่อม ขุ่น บดบังการมองเห็น เพียงแต่ว่าความขุ่นของแก้วตาแตกต่างกันบ้างในระหว่างคน บางคนขุ่นช้า บางคนขุ่นเร็ว บางคนขุ่นบริเวณที่มีผลต่อการมองเห็นน้อย บางคนเป็นบริเวณกลาง ตรงกับรูม่านตาก็ทำให้มัวลงได้มากกว่า ในขณะที่มีความขุ่นเกิดขึ้นในเนื้อแก้วตา อาจทำให้ดัชนีการหักเหของแสงของแก้วตาเปลี่ยนไป เกิดภาวะสายตาสั้นชั่วคราว เกิดภาวะ second sight ขึ้น นั่นคือเมื่อมีสายตาสั้นจึงทำให้คุณตามี กลับมาอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องใส่แว่น ผู้สูงอายุที่เคยใช้แว่นสายตาอ่านหนังสือ แล้วอยู่ๆ กลับมาพบว่าอ่านหนังสือได้โดยไม่ต้องใส่แว่น ควรจะทดสอบว่า แล้วมองไกลยังเห็นชัดอยู่หรือไม่ ซึ่งมักจะมองไม่ชัด จึงควรไปรับการตรวจจากหมอตา/จักษุแพทย์ว่าเป็นต้อกระจกหรือไม่ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป

อาการสำคัญของโรคต้อกระจก คือ ตาค่อยๆ มัวลงอย่างช้าๆ โดยไม่มีอาการเจ็บปวด หรือตาแดง ในตอนแรก มัวเมื่ออยู่กลางแสง แต่ในที่มืดยังเห็นได้ปกติ มีบางคนที่อาจมาด้วยภาวะ second sight ดังเช่นคุณตามีก็ได้