สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน:การแก้ไขภาวะเห็นภาพซ้อน (Binocular diplopia correction)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
- 3 กรกฎาคม 2557
- Tweet
ภาวะเห็นภาพซ้อน(diplopia) หมายถึง การเห็นภาพเดียวหรือวัตถุอันเดียวข้างหน้าเป็น 2 ภาพหรือเป็น 2 สิ่ง เป็นได้ทั้งเกิดจากตาข้างเดียว (monocular diplopia) หมายถึง เมื่อใช้ตาเดียวมองภาพ (โดยปิดตาอีกข้าง) เห็นภาพหนึ่งภาพข้างหน้าเป็น 2 ภาพ ภาวะนี้มักเกิดจากการหักเหของแสงผ่านส่วนต่างๆ ของลูกตาไปโฟกัสที่จอตาไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้แสงจากวัตถุอันเดียวไปตกจอตาที่ต่างกัน เกิดเป็น 2 ภาพขึ้น มักเกิดจากภาวะต่างๆ เช่น สายตาเอียง สายตาผิดปกติ เริ่มเป็นต้อกระจก แก้วตาเคลื่อนที่มีความผิดปกติของกระจกตา ภาวะกระจกตาย้อย (keratoconus) เป็นต้น
สำหรับ Binocular diplopia หมายถึงการเห็นภาพหนึ่งภาพ ขณะใช้ตา 2 ข้าง พร้อมกันเป็น 2 ภาพ แสดงถึงแสงจากวัตถุตกที่ fovea ของจอตาทั้ง 2 ข้าง ก็จริง แต่ไม่มีความสัมพันธ์กัน เสมือนหนึ่งมีภาพ 2 ภาพอยู่ต่างที่กัน มักเกิดจากการกลอกตาหรือการทำงานของกล้ามเนื้อกลอกตาในตา 2 ข้างไม่สอดคล้องกัน อาจเกิดจากมีความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ หรือตัวกล้ามเนื้อบางมัดมีการทำงานบกพร่อง โดยสรุปภาวะ monocular dipdopia มักเกิดจากความผิดปกติในตาส่วน binocular displopia เกิดจาก
- ผิดปกติในสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อกลอกตา (ได้แก่ เส้นประสาทสมองที่ 3, 4, 6) จากโรคของสมอง
- โรค myasthenia gravis ทำให้กล้ามเนื้อกลอกตา ทำงานไม่ปกติ
- โรคของต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้กล้ามเนื้อตาบางมัดทำงานผิดปกติ
- โรคเบาหวาน ทำให้กล้ามเนื้อตาเป็นอัมพาตบางมัด
- ได้รับอุบัติเหตุทำให้เบ้าตาแตก กระทบกระทั่งกล้ามเนื้อตาบางมัด
- มีความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา ทำให้เกิดภาวะตาเข ในบางรายจะมีอาการ diplopia ได้ โดยเฉพาะในภาวะ intermittent squint
- ภาวะ convergence insufficency เป็นความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตาเวลามองใกล้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมี dipplopia เวลามองใกล้นาน ๆ
- มีสายตา 2 ข้างที่ต่างกัน
ฯ ล ฯ
อนึ่ง เมื่อเกิดภาวะ binocular diplopia จะก่อให้เกิดความรำคาญ สับสน มึนงง รบกวนการใช้สายตา บางท่านอาจจะปวดศีรษะทำงานไม่ได้เลย การแก้ไขภาวะ diplopia ต้องเริ่มหาสาเหตุก่อน ถ้าเป็นจากกล้ามเนื้ออัมพาตจากสาเหตุต่างๆ ที่กล่าวข้างต้น ต้องหาและรักษาต้นเหตุก่อนเสมอ แล้วตามด้วยการแก้ไขเฉพาะหน้าลดภาวะ diplopia
วิธีแก้ไขภาวะเห็นภาพซ้อน
ซึ่งจักษุแพทย์จะทำให้ด้วยวิธีหลัก 2 วิธี
- ช่วยให้ผู้ป่วยรวมภาพ 2 ภาพ จากตา 2 ข้างเข้าด้วยกัน (ให้ใช้ตา 2 ข้างร่วมกัน) เรียกว่าให้มี Fusion
- ให้ผู้ป่วยใช้ตาเดียว ให้มี monocular vision จึงขจัดภาพจากตาอีกข้างออกไป
การรักษาวิธีที่ 1 :
อาจทำได้โดย
- ใช้วิธีฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำได้ในบางภาวะ เช่น ภาวะ convergence insufficency หรือภาวะตาเขซ่อนเร้น (heterophoria)
- ภาวะ diplopia บางรายเกิดจากสายตา 2 ข้าง ต่างกัน แก้ไขโดยการใช้แว่นปรับสายตาหรือร่วมกับในบางรายถ้ามีตาเขออกบางครั้ง (intermitlent exotropia) การแก้ด้วยแว่นสายตามากกว่าจริง (over correction of myopia) จะทำให้ภาวะ exotropia ลดลงหรือหายไปได้
- ใช้ prism ในแว่นตา เบี่ยงเบนภาพในตา 2 ข้างให้มาชิดกัน
- การฉีด Botox ในกล้ามเนื้อตรงข้ามกับมัดที่อัมพาต ตลอดจนการใช้ยารักษาภาวะ myasthenia gravis ให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงมีกำลังดีขึ้น
- การผ่าตัด มักจะใช้เมื่อรักษาสาเหตุแล้ว หรือรอให้ขนาดของตาเขอยู่คงที่แล้ว อาจผ่าตัดกล้ามเนื้อตาแก้ไขได้
การรักษาวิธีที่ 2:
ให้ผู้ป่วยใช้ตาข้างเดียว โดย
- ปิดตาข้างหนึ่ง อาจจะด้วยผ้าปิดตา วัตถุทึบแสงปิดที่เลนส์แว่นตาข้างหนึ่ง เป็นวิธีเบื้องต้นที่ใช้กันในรายที่มาด้วย binocular diplopia ที่สับสน มึนงง มีอาการมาก อาจจะปิดสลับข้างกันคนละวัน แต่ไม่ควรปิดตลอดเวลา เพื่อให้ตาพยายามมี fusion บ้างในขณะเปิดตา 2 ข้าง
- ใช้แว่นตา อาจทำแว่นสายตามองไกลข้างหนึ่ง มองใกล้ข้างหนึ่ง ใช้ตาเดียวในแต่ละระยะ
- แพทย์บางคนแนะนำให้ใส่ prism แต่วาง prism ไปในทางตรงข้ามกับวิธี Fusion คือวาง prism ทำให้ภาพ 2 ภาพ ห่างไกลกันออกไป ทำให้ผู้ป่วยกดภาพหนึ่งได้