ลดได้ ตัดได้ ผอมได้ (ตอนที่ 8)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 8 เมษายน 2560
- Tweet
การตัดกระเพาะ (Gastric bypass / Roux-en-Y gastric bypass)
เป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนกว่าแบบแรกค่อนข้างมาก และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลังการผ่าตัด แพทย์จะทำการผ่าตัดกระเพาะและลำไส้ โดยผ่าตัดกระเพาะอาหารด้านบนให้มีขนาดเล็กและตัดเอาลำไส้ส่วนล่างเข้าไปต่อใหม่ เพื่อเป็นการย่นระยะของทางเดินอาหารให้สั้นลง ทำให้มีการดูดซึมอาหารได้น้อยลง และอาหารส่งถึงลำไส้ได้เร็วขึ้น
โดยวิธีนี้จะมีผลทำให้ฮอร์โมนและแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร (Gut hormones and gut bacteria) รวมถึงปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบต่อการย่อยและการเผาผลาญอาหารเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ข้อดีของวิธีการตัดกระเพาะ
- สามารถลดน้ำหนักได้ในระยะยาว (ร้อยละ 60-80 ของน้ำหนักส่วนเกิน)
- จำกัดปริมาณอาหารที่สามารถกินได้
- อาจทำให้เกิดการใช้พลังงานที่มากขึ้น
- มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีของฮอร์โมนในกระเพาะอาหารซึ่งสามารถลดความหิวและช่วยให้อิ่ม
- การผ่าตัดมีความซับซ้อนกว่าวิธีผ่าตัดรัดกระเพาะหรือวิธีผ่าตัดแบบสลีฟ และอาจเพิ่มอัตราเสี่ยงของอาการแทรกซ้อนที่มากกว่า
- อาจทำให้เกิดการขาดวิตามิน/เกลือแร่ในระยะยาว โดยเฉพาะการขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก แคลเซียม และโฟเลต
- ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่าวิธีผ่าตัดรัดกระเพาะ
- ต้องปฏิบัตตามคำแนะนำของแพทย์ในการกิน ต้องกินอาหารเสริมวิตามิน/เกลือแร่ตลอดชีวิต และต้องคอยติดตามผลการรักษา
การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve gastrectomy / gastric sleeve surgery)
เป็นการผ่าตัดคล้ายกับการรัดกระเพาะ แต่เป็นการผ่าตัดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลังการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดกระเพาะอาหารประมาณร้อยละ 80 ออกไป ทำให้กระเพาะอาหารมีรูปร่างคล้ายกล้วยหอมแทนการใส่ห่วง โดยตัดกระเพาะอาหารส่วนล่างออกไปจากร่างกาย ผู้ป่วยจึงมีกระเพาะอาหารที่เล็ก ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง
เช่นเดียวกับการตัดกระเพาะ ฮอร์โมนและแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร รวมถึงปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบต่อการย่อยและการเผาผลาญอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
แหล่งข้อมูล
1. Bariatric Surgery Procedures. https://asmbs.org/patients/bariatric-surgery-procedures [2017, April 7].
2. Bariatric Surgery. https://www.niddk.nih.gov/health-information/health-topics/weight-control/bariatric-surgery/Pages/definition-facts.aspx [2017, April 7].