รับมือกับริดสีดวงทวารอย่างไรดี (ตอนที่ 2)

  • โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
  • 26 เมษายน 2556
  • Tweet

กรณีที่เป็นริดสีดวงทวารภายใน (Internal hemorrhoids) จะปรากฏการไหลของเลือดที่ทวารหนัก อาจเห็นเลือดสีแดงสดบนกระดาษชำระหรือในโถส้วมหลังจากการถ่ายอุจจาระปกติ และอาจเห็นเลือดปรากฏบนผิวหน้าของอุจจาระ นอกจากนี้อาการของริดสีดวงทวารภายในอาจรวมถึง

  • อาการคัน (Itching) – ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อย เพราะริดสีดวงทวารภายในมักมีเมือกไหลออกมา ซึ่งสามารถทำให้ผิวหนังบริเวณทวารหนักระคายเคืองและเกิดอาการคัน
  • อาการระคายเคืองผิวหนัง (Skin irritation) - ริดสีดวงทวารหนักขนาดใหญ่ที่โป่งนูนจากทวารหนักอาจหลั่งเมือกออกมา เป็นสาเหตุให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง
  • ความรู้สึกไม่สบาย - ท่านอาจยังคงรู้สึกอยากถ่ายอีกหลังจากที่เพิ่งถ่ายอุจจาระไปแล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะริดสีดวงทวารหนักที่โป่งนูนในส่วนท้ายของทวารหนัก หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่เท่าไร ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากขึ้นเท่านั้น
  • อาการปวด - โดยทั่วไปริดสีดวงทวารภายในมักไม่แสดงอาการปวด แต่ริดสีดวงทวารขนาดใหญ่ที่โป่งนูนจากทวารหนักอาจทำให้ปวดได้ หากมีอาการบวมและมีการบีบตัวโดยกล้ามเนื้อที่ควบคุมทวารหนัก

อย่างไรก็ดี อาการที่มีเลือดออกและปวดที่ทวารหนัก และมีการเปลี่ยนแปลงของนิสัยในการขับถ่าย อาจเป็นสัญญาณของการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงก็ได้ คนที่มีอาการเช่นนี้โดยเฉพาะคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็น จำเป็นที่จะต้องทำการปรึกษาแพทย์ด้วย

นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นที่มีลักษณะอาการคล้ายโรคริดสีดวงทวารด้วย เช่น แผลที่ปากทวารหนัก (Anal fissures) โรคฝีคัณฑสูตร (Anal fistulas) มีติ่งเนื้อในลำไส้ (Colon polyps) สำไส้ใหญ่ปลิ้นออกมาทางทวารหนัก (Rectal prolapse) และโรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory bowel disease : IBD)

[โรคฝีคัณฑสูตร (Fistula-in-ano) คือ โรคที่ด้านในของทวารหนักเกิดมีรูขึ้นมา ซึ่งรูนี้เป็นเส้นทางที่จะไปเชื่อมต่อกับผิวหนังภายนอกบริเวณแก้มก้น สาเหตุหลักเกิดจากการเป็นฝี/แผลรอบๆ ทวารหนักมาก่อน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณแก้มก้นหรือขอบปากทวารหนัก มีน้ำเหลืองไหลออกจากรูที่ผิวหนัง หรืออาจเป็นหนองไหลออกมา มีการอักเสบของเส้นทางเชื่อมต่อนี้แบบเป็นๆ หายๆ]

หากท่านเป็นริดสีดวงทวาร ท่านควรไปพบแพทย์หากมีอาการดังต่อไปนี้

  • ปวดทวารหนักมานานมากกว่า 1 สัปดาห์
  • มีอาการปวดหรือบวมอย่างรุนแรง
  • เนื้อเยื่อจากด้านในร่างกายโป่งออกมาจากทวารหนักและไม่กลับสู่ปกติ หลังพยายามรักษาตัวเองเป็นเวลา 3 - 7 วันแล้ว
  • ก้อนที่อยู่ในทวารหนักมีขนาดใหญ่หรือปวดมากขึ้น
  • มีเลือดออกทางทวารมากหรือมีการเปลี่ยนสี เช่น จากสีแดงสดไปเป็นแดงเข้ม หรืออุจจาระมีการเปลี่ยนสี จากสีน้ำตาลเข้ม ไปเป็นสีน้ำตาลแดงหรือสีดำ

แหล่งข้อมูล:

  1. Symptoms. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-symptoms [2013, April 24].
  2. When To Call a Doctor. - http://www.webmd.com/a-to-z-guides/hemorrhoids-when-to-call-a-doctor [2013, April 24].