รวมมิตรวิตามิน (ตอนที่ 3)

รวมมิตรวิตามิน

The European Food Safety Authority ได้ยืนยันถึงประโยชน์ของวิตามินซี ไว้ว่า

  • ช่วยป้องกันองค์ประกอบของเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ
  • สร้างคอลลาเจนและช่วยในการทำงานของกระดูก ฟัน กระดูกอ่อน เหงือก ผิว และหลอดเลือด,/li>
  • ช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติ
  • ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานเป็นปกติ
  • ช่วยในการเผาผลาญให้เกิดพลังงาน
  • รักษาระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานปกติระหว่างและหลังการออกกำลังกายอย่างหนัก
  • ช่วยทำให้จิตใจเป็นปกติ
  • ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย

นอกจากนี้ผลการวิจัยบางฉบับระบุว่า วิตามินซี ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในอาการดังต่อไปนี้

  • โรคหัวใจ โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดตีบแข็ง (Atherosclerosis)
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งที่ท้อง และอาจรวมถึงมะเร็งเต้านม
  • โรคไขข้ออักเสบ เพราะวิตามินซีช่วยสร้างคลอลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน
  • ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่น เช่น เบต้าแคโรทีน และ วิตามินอี ในการป้องกันตาที่ผิดปกติ เช่น ต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular degeneration = AMD) ที่ทำให้เกิดอาการตาบอดในผู้ที่อายุมากกว่า 55 ปี
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน รักษาสุขภาพเหงือก ลดผลกระทบจากการถูกแสงแดด (ผิวไหม้หรือแดง) รักษาแผลไหม้และแผลบาดเจ็บ ลดอาการหอบหืดที่เกิดจากการออกกำลัง (Exercise-induced asthma) และยับยั้งการดูดซึมของสารพิษตะกั่ว
  • ลดโอกาสในการเป็นหวัด

สำหรับปริมาณความต้องการวิตามินซีนั้น ในสหภาพยุโรปได้กำหนดปริมาณในผู้ใหญ่เป็น 100 mg ต่อวัน ส่วนในสหรัฐอเมริกาได้กำหนดปริมาณในผู้ชายเป็น 90 mg ต่อวัน และผู้หญิงเท่ากับ 75 mg ต่อวัน และกรณีหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรได้รับในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น

ผู้สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงในการขาดวิตามินซี โดยอาการที่เป็น ได้แก่ ผมแห้งและแตก เหงือกอักเสบ เลือดออกตามไรฟัน ผิวหยาบแห้งตกสะเก็ด อัตราที่แผลหายลดลง เป็นแผลฟกช้ำง่าย เลือดกำเดาไหล และลดความสามารถในการขจัดเชื้อ (Ward off infection)

เราสามารถพบวิตามินซีได้ในผักและผลไม้ทั่วไป เช่น พืชตระกูลส้ม พริกไทย ผักใบเขียวอย่างบร็อคโคลี่ กะหล่ำดาว (Brussels sprouts) ผลไม้ เช่น สตรอเบอรี่ ฝรั่ง มะม่วง และกีวี โดยน้ำส้มสดแก้วขนาดกลาง (เช่น ขนาด 100 g) จะมีวิตามินซีอยู่ที่ 15-35 mg

แหล่งข้อมูล

1. Vitamin C. http://www.nutri-facts.org/eng/vitamins/vitamin-c-ascorbic-acid/at-a-glance/[2016, February 17].