รวมญาติตระกูลบี (ตอนที่ 4)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 8 กุมภาพันธ์ 2559
- Tweet
เพราะวิตามินบี 1 เป็นตัวช่วยให้เกิดพลังงาน ดังนั้นปริมาณต้องการวิตามินจึงขึ้นกับระดับของกิจกรรม โดยทั่วไป ผู้หญิงควรได้รับวิตามินบี 1 ในปริมาณ 0.9–1.1 mg ต่อวัน ส่วนผู้ชายอยู่ที่ 1.1–1.2 mg ต่อวัน
ผู้ที่ขาดวิตามินบี 1 จะมีความลำบากในการย่อยคาร์โบไฮเดรท ทำให้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง หายใจลำบาก และหัวใจถูกทำลาย อย่างไรก็ดี การได้รับวิตามินบี 1 มากเกินไป อาจเป็นสาเหตุให้ท้องปั่นป่วนได้
แหล่งของวิตามินบี 1 ที่ดีที่สุดคือ ยีสต์แห้ง (Dried brewer’s yeast) นอกจากนี้ พบในเนื้อสัตว์ (โดยเฉพาะเนื้อหมูและแฮม) ปลาบางชนิด (เช่น ปลาไหล ปลาทูน่า) ธัญพืชและขนมปัง ถั่ว เมล็ดพืชที่กินได้ (Pulses) ถั่วเมล็ดแห้ง (Dried legumes) มันฝรั่ง
วิตามินบี 2
,p.วิตามินบี 2 หรือที่เรียกว่า ไรโบเฟลวิน (Riboflavin) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำได้มากที่สุด วิตามินบี 2 ในร่างกายเป็นส่วนประกอบเบื้องต้นของสารโคเอนไซม์ และเป็นวิตามินที่ทำให้เกิดสีเหลืองในปัสสาวะ วิตามินบี 2 ช่วยในการ- เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรทให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส (Glucose) ซึ่งใช้ในการสร้างพลังงาน
- เป็นตัวทำให้อนุมูลอิสระ (Free radicals) เป็นกลาง ไม่ทำลายเซลล์หรือดีเอ็นเอ โดยสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) นี้อาจลดหรือช่วยป้องกันความเสื่อมที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น และลดโอกาสในการเกิดภาวะโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
- เปลี่ยนวิตามินบี 6 และวิตามินบี 9 ให้อยู่ในรูปที่ใช้งานได้ (Active forms)
The European Food Safety Authority ได้ยืนยันถึงประโยชน์ของวิตามินบี 2 ไว้ว่า
- ช่วยให้เกิดพลังงาน (Energy-yielding metabolism)
- ช่วยในการเผาผลาญธาตุเหล็กในร่างกาย
- ช่วยรักษาผิวหนังและเยื่อเมือก (Mucous membranes)
- ช่วยรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดง
- ช่วยรักษาสายตา
- ช่วยป้องกันองค์ประกอบของเซลล์จากการถูกทำลาย (Oxidative damage)
- ช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติ
- ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย
นอกจากนี้ผลการวิจัยบางฉบับระบุว่า วิตามินบี 2 ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคดังต่อไปนี้
- โรคที่เกี่ยวกับตา โดยใช้ร่วมกับสารอาหารอื่น อาจจะช่วยป้องกันเลนส์ตาจากต้อกระจก (Cataracts)
- ช่วยลดความถี่และระยะเวลาในการเป็นไมเกรน (Migraine headaches)
แหล่งข้อมูล
1. Vitamin B1. http://www.nutri-facts.org/eng/vitamins/vitamin-b1-thiamin/at-a-glance/ [2016, February 7].
2. Vitamin B2. http://www.nutri-facts.org/eng/vitamins/vitamin-b2-riboflavin/at-a-glance/ [2016, February 7].