ยาทำแท้ง ใกล้แจ้งเกิดแล้ว (ตอนที่ 1)

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีงานประชุมเชิงนโยบายเรื่อง "การพัฒนาระบบบริการปรึกษาทางเลือก เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงในภาวะวิกฤติท้องไม่พร้อม" โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) องค์การแพทย์ และมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพของผู้หญิง (สคส.) สนับสนุนโดยแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้น

นพ.กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ ระบุว่า สธ.เตรียมอนุญาตให้ใช้ "ยายุติการตั้งครรภ์ไม่พร้อม" มีจุดประสงค์ในแก้ปัญหาสังคม เป้ากลุ่มหมายหลักคือวัยรุ่น โดยนำร่องก่อน 4 โรงพยาบาลใหญ่ กล่าวคือ จุฬาลงกรณ์ รามาธิบดี ศิริราช และโรงพยาบาลแม่และเด็ก จังหวัด ขอนแก่น ระบุให้ประสิทธิภาพดีกว่ายาคุมฉุกเฉิน และไม่เสี่ยงชีวิตเหมือนการขูดมดลูก หากได้ผลจะกระจายสู่สถานพยาบาลทั่วประเทศในปี 2556

การแท้ง (Abortion) คือการยุติการตั้งครรภ์ ในระยะที่ไม่ทำให้เกิดการอยู่รอด มักจะหมายถึงการยุติการตั้งครรภ์โดยการขับหรือนำทารกในครรภ์ (Embryo) ออกจากมดลูก ก่อนที่ทารกในครรภ์นั้นจะสามารถอยู่รอดได้ การแท้งอาจเกิดขึ้นเองหรือเกิดจากการทำแท้งด้วยสารเคมี [ยา] หรือศัลยกรรมก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่กระทำโดยสูติ-นรีแพทย์

ในแต่ละปี มีการตั้งครรภ์ 205 ล้านครั้งทั่วโลก ในจำนวนนี้ มากกว่า 1 ใน 3 เกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผน และประมาณ 1 ใน 5 ลงเอยด้วยการทำแท้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน ตามปรกติ การทำแท้งสามารถทำได้หลายวิธีการขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของอายุครรภ์ ที่แปรผันตามขนาดตัวทารกในครรภ์

สำหรับประเทศไทยนั้น การทำแท้งเป็นการผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301–305 ซึ่งจะลงโทษทั้งหญิงที่ทำแท้งและผู้ที่ทำแท้งให้หญิง แต่ก็ให้อำนาจแก่แพทย์ในการทำแท้งให้หญิงได้ ในกรณีที่หญิงยินยอม และ ความจำเป็นเนื่องจากสุขภาพของหญิง คือ หากปล่อยให้หญิงตั้งครรภ์หรือคลอดต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหญิงผู้นั้นได้ นอกจากนี้ กฎหมายยังให้อำนาจแพทย์ในการทำแท้งให้แก่หญิงที่ถูกกระทำผิดอาญา อาทิ ถูกข่มขืนชำเราแล้วเกิดตั้งครรภ์

การทำแท้งมีมาในประวัติศาสตร์นานแล้ว โดยใช้วิธีการต่างๆ นานา อาทิ การใช้สมุนไพร ของมีคม วิธีทางกายภาพและวิธีการดั้งเดิมต่างๆ ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันทำแท้งด้วยยาหรือศัลยกรรม ในกรณีการทำแท้งด้วยยา ที่เรียกว่า "ยาแท้ง" ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 13 ของการทำแท้งทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2548 โดยเพิ่มเป็นร้อยละ 17 ในปี พ.ศ. 2553

สูตรยาผสมที่ใช้ในการทำแท้งประกอบด้วยยาเมโธเทร็กเสท (Methotrexate) หรือไมฟิพริสโตน (Mifepristone) จากนั้นก็ตามด้วยการใช้ยากลุ่มพรอสตาแกลนดิน คือยามิโซโพรสตอล (Misoprostol: เป็นยาที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา) หรือยาแกมีพรอสต์ (Gemeprost: เป็นยาที่ใช้ในสหราชอาณาจักรและสวีเดน)

ในกรณีใช้สูตรยานี้ภายใน 49 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์จนเกิดการปฏิสนธิ ประมาณร้อยละ 92 ของผู้ที่รับประทานยาครบตามสูตรยาผสมจะทำแท้งสำเร็จโดยไม่ต้องใช้ศัลยกรรม ยามิโซโพรสตอลสามารถนำมาใช้เป็นยาเดี่ยวก็ได้ แต่มีประสิทธิผลน้อยกว่าสูตรยาผสม ในกรณีที่การทำแท้งด้วยยาล้มเหลว ต้องมีการทำแท้งด้วยศัลยกรรมต่อเพื่อยุติการต้งครรภ์

แหล่งข้อมูล:

  1. ไฟเขียวใช้ยายุติท้องไม่พร้อมได้ผลดีกว่ากินยาคุมฉุกเฉิน-ทำแท้ง/เริ่ม4รพ. http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/27049 [2012, March 9].
  2. Medical abortion. http://en.wikipedia.org/wiki/Medical_abortion [2012, March 9].
  3. การทำแท้ง http://th.wikipedia.org/wiki/การทำแท้ง [2012, March 9].