มองโรค(โลก)แบบหมอสมศักดิ์ ตอน: ขอตรวจ เอมอาร์ไอ

วันหนึ่งๆ ผมก็ตรวจผู้ป่วยที่โอพีดีโรงพยาบาลประมาณ 50-60 คนต่อ 3 ชั่วโมง ก็ไม่มากไม่น้อย แต่ก็ทานอาหารกลางวันไม่เคยตรงเวลาเลย วันพุธผมจะตรวจผู้ป่วยนอกเวลาราชการด้วย เริ่ม 6 โมงเย็นกว่าจะเสร็จก็ 4 ทุ่ม หมดแรงทุกครั้งครับ เมื่อผมตรวจถึงผู้ป่วยรายสุดท้าย ผมก็ดีใจมากครับ เพราะจะได้กลับบ้าน แต่วันนี้ผมรู้สึกแปลกๆ และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบสุขภาพของไทย เพราะผู้ป่วยรายสุดท้ายวันนี้ถือ ประวัติหนามากพร้อมผลการตรวจเอมอาร์ไอสมอง 3 ครั้ง

ผมเริ่มทบทวนประวัติการเจ็บป่วย คือ คุณป้าเป็น Bell’s palsy ครับ (เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ เมื่อ 1 ปีก่อน) เริ่มรักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชน ซึ่งให้การวินิจฉัยและรักษาถูกต้องแบบน่าชื่นชมมาก แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงย้ายมารักษากับอายุรแพทย์ที่โรงพยาบาลจังหวัด แพทย์จึงส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เพราะผู้ป่วยบอกว่าไม่ดีขึ้นกลัวว่าเป็นอัมพาต ผมดูในประวัติคุณหมอเขียนไว้ชัดเจนว่าไม่จำเป็นต้องทำ แต่ผู้ป่วยก็บอกว่าต้องทำ 3 เดือนต่อมาไม่ดีขึ้นก็ย้ายมาพบหมอสมองที่โรงพยาบาลจังหวัดหนึ่ง ก็ส่งตรวจเอมอาร์ ไอสมอง ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ ผู้ป่วยต้องการตรวจและมีการทำซ้ำเมื่อ 6 เดือน 12 เดือน ตามลำดับ

ผมสอบถามคุณป้าว่าทำไมคุณป้าถึงต้องตรวจเอมอาร์ไอ ตั้ง 3 ครั้ง แล้วก็เปลี่ยนหมอมาหลายคน แล้ว วันนี้ก็รอนานมากจนกว่าจะได้ตรวจก็สี่ทุ่ม เดินทางมาตั้งไกลหลายร้อยกิโลเมตร ทั้งๆ ที่คุณป้าก็เป็นแค่ Bell’s palsy

ผู้ป่วยตอบว่า “ป้าอยากให้มันสุดๆ ค่ะ ป้าเป็นข้าราชการ เมื่อป้าเจ็บป่วย ป้าก็อยากได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ต้องตรวจให้ครบ อะไรที่ว่าดีป้าต้องได้ตามสิทธิ์การรักษา และวันนี้ป้าก็ต้องการมาพบคุณหมอ เพราะจะได้สุดๆ ถ้าวันนี้หมอบอกป้าว่าเป็นอะไร ผลการรักษาอย่างไร ป้าก็พอแล้ว”

ผมนึกในใจว่า ป้าควรพอตั้งแต่หมออายุรกรรมโรงพยาบาลจังหวัดแล้วครับ ทำไมจึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมคิดว่ามี 4 เหตุผลคือ

  1. ผู้ป่วยยังเชื่อว่าหมอที่โรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลจังหวัดที่ไม่ได้เป็นหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอในการรักษาโรค
  2. เพราะเป็นข้าราชการ สิทธิ์การรักษาทุกอย่างฟรีหมด จนเกิดการใช้สิทธิ์เกินความจำเป็นของโรคนั้น
  3. เข้าใจว่าการตรวจต่างๆ เพิ่มเติม เช่น เอมอาร์ไอ คือ สิ่งที่ดีที่สุดจะช่วยบอกได้ทุกอย่างและทำให้หายได้
  4. ความเชื่อและความศรัทธาต่อหมอที่โรงเรียนแพทย์ว่าจะช่วยให้หายได้

โรคแต่ละโรคมีความยากง่ายในการวินิจฉัย รักษาแตกต่างกัน อย่างเช่น โรค Bell’s palsy นี้ คุณหมอทุกคนสามารถรักษาได้ และไม่จำเป็นต้องส่งตรวจเพิ่มเติมใดๆ ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยสิทธิ์ข้าราชการก็คือ เงินภาษีของเราพวกเราคนไทยทุกคนครับ