ฟาสต์ฟู้ดบ่อย เสี่ยงโรคหอบหืด (ตอนที่ 2)

โรคหืดไม่มีทางรักษาให้หายได้ เมื่อคุณรู้สึกสบายดี โรคก็ยังอยู่กับคุณและอาจกำเริบได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ดีด้วยความรู้และการรักษาสมัยปัจจุบัน เราสามารถจัดการกับโรคได้ โดยคนที่เป็นโรคนี้ สามารถใช้ชีวิตที่ปกติและสามารถนอนหลับได้ตลอดคืนโดยไม่ถูกรบกวนจากอาการหอบ

สาเหตุของโรคหืดยังไม่เป็นที่รู้ชัดเจน แต่นักวิจัยคิดว่าโรคนี้เกิดจากกรรมพันธุ์และปัจจัยสภาพแวดล้อมในช่วงวัยเด็ก ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่

  • ภูมิแพ้ที่เกิดจากพันธุกรรมที่เรียกว่า ภาวะภูมิแพ้กรรมพันธุ์ (Atopy)
  • พ่อแม่เป็นโรคหืด
  • มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในช่วงวัยเด็ก
  • สัมผัสกับสารภูมิแพ้ที่ติดเชื้อในอากาศ หรือการติดเชื้อไวรัสในวัยทารกหรือวัยเด็ก ขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันกำลังวิวัฒนา

เด็กเล็กที่มักจะหายใจลำบาก มีเสียงฟืดฟาด และมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ หรือมีปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่น เช่น เป็นภูมิแพ้ เป็นผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้ (Eczema ) หรือมีพ่อแม่เป็นโรคหืด มีแนวโน้มมากที่จะเป็นโรคหืดเมื่ออายุเกิน 6 ปี โดยเด็กผู้ชายมักจะเป็นโรคหืดมากกว่าเด็กผู้หญิง แต่เมื่อโตขึ้นโอกาสในการเป็นจะเท่าเทียมกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิง และคนส่วนใหญ่ (แต่ไม่ใช่ทุกคน) ที่เป็นโรคหืดมักจะเป็นภูมิแพ้ด้วย

บางคนเป็นโรคหืดเพราะการถูกสารเคมีหรือฝุ่นละอองในที่ทำงาน โรคหืดชนิดนี้เรียกว่า โรคหืดจากการทำงาน (Occupational asthma)

มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด ซึ่งรวมถึง :

  • การแพ้ฝุ่นละออง ขนสัตว์ แมลงสาบ รา (Mold) และละอองเกสรดอกไม้ ต้นไม้ใบหญ้า
  • ได้รับการระคายเคืองจากควันบุหรี่ มลภาวะ สารเคมี หรือ ฝุ่นละอองในที่ทำงาน ส่วนประกอบของของแต่งบ้าน และสเปรย์ (เช่น สเปรย์แต่งผม)
  • ยา เช่น แอสไพริน หรือ ยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID = Non-steroidal anti-inflammatory drugs) และกลุ่มยาปิดกั้นเบต้า (Beta Blockers)
  • สารซัลไฟด์ในอาหารและน้ำดื่ม
  • การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นไข้หวัด
  • การออกกำลังกาย

อาการสุขภาพอย่างอื่นที่อาจทำให้โรคหืดแย่ลง ได้แก่ น้ำมูกไหล (Runny nose) การติดเชื้อในโพรงจมูก (Sinus infections) โรคกรดไหลย้อน (Reflux disease) ความเครียดทางจิตใจ โรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ (Sleep apnea) อาการเหล่านี้ต้องทำการรักษาและถือเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรคหืดด้วย

แหล่งข้อมูล:

  1. What Is Asthma? http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/asthma/ [2013, January 23].
  2. What Causes Asthma? http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/asthma/causes.html [2013, January 23].
  3. Who Is at Risk for Asthma? http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/asthma/atrisk.html [2013, January 23].
  4. What Are the Signs and Symptoms of Asthma? http://www.nhlbi.nih.gov/health/health-topics/topics/asthma/signs.html [2013, January 23].