พิโคซัลเฟต (Picosulfate or Picosulphate)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คือยาอะไร?

พิโคซัลเฟต (Picosulfate หรือ Picosulphate) คือ ยาแก้ท้องผูก ใช้เป็นยาระบายและใช้เตรียมให้กับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy), โดยรูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้ จะเป็นชนิดรับประทาน ทั้งชนิดแคปซูล และชนิดผงละลายน้ำ

ยาพิโคซัลเฟต เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว ใช้เวลาไม่เกินประมาณ 1 ชั่วโมงหลังบริโภคยา ผู้ป่วยจะรู้สึกอยากระบาย

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยาพิโคซัลเฟต เช่น เกิดตะคริวที่ท้อง หัวใจเต้นเร็ว และมีภาวะท้องเสียจนอาจส่งผลรบกวนสมดุลของน้ำและเกลือแร่/อิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) ภายในร่างกาย เช่น ทำให้เกลือโซเดียมในเลือดต่ำ  เกลือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังรู้สึกกระหายน้ำเพิ่มมากขึ้น

ธรรมชาติของยาพิโคซัลเฟต ยังไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที แต่หลังบริโภคจะต้องถูกแบคทีเรียในลำไส้เปลี่ยนโครงสร้างยา จนได้สารประกอบที่ก่อให้เกิดฤทธิ์กระตุ้นลำไส้ให้มีการบีบตัวอีกทีหนึ่ง

แพทย์ผู้รักษา อาจสั่งจ่ายสูตรตำรับยาที่มียาพิโคซัลเฟตร่วมกับยา Magnesium citrate  เพื่อช่วยระบายได้มากยิ่งขึ้น, ทางคลินิกแพทย์แนะนำให้ใช้ยานี้เพียงแต่ระยะสั้นๆเท่านั้น,  กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการท้องผูกนานถึง 5 วัน ควรต้องขอคำปรึกษาจากแพทย์ในการใช้ยาต่างๆ ร่วมกับปรับพฤติกรรมของการบริโภคอาหารที่มีกากใย และดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ

การใช้ยาพิโคซัลเฟต จะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น หากผู้ป่วยได้รับยาพิโคซัลเฟต มากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ป่วยได้, และเพื่อประสิทธิผลของการรักษาแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยานี้ตรงเวลาเพื่อกันลืม, และไม่ควรแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นรับประทาน, หรือถ้าพบอาการผิดปกติหลังการใช้ยานี้ ต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน

ประเทศไทยมีสูตรตำรับยาพิโคซัลเฟตที่มีลักษณะเป็นยาผงสำหรับละลายน้ำก่อนรับประทาน โดยในสูตรตำรับจะมีเกลือ Magnesium oxide และกรด Citric acid ผสมร่วมอยู่ด้วยทั้งนี้เกลือแมกนีเซียมจะช่วยเพิ่มฤทธิ์ในการระบาย

คณะกรรมการอาหารและยาได้ระบุให้ยาพิโคซัลเฟตเป็นยาควบคุมพิเศษ และยานี้มีใช้แต่ในสถานพยาบาลเท่านั้น เราจึงไม่พบเห็นการซื้อขายยานี้ได้จากร้านขายยาทั่วไป

พิโคซัลเฟตมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

 

ยาพิโคซัลเฟตมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • บรรเทาอาการท้องผูก
  • ใช้เป็นยาระบายก่อนการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ หรือก่อนตรวจเอกซเรย์ลำไส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้ง
  • ใช้เป็นยาระบายก่อนเข้ารับการผ่าตัด

พิโคซัลเฟตมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาพิโคซัลเฟต คือ หลังรับประทานยาพิโคซัลเฟต  ตัวยาจะถูกเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีในขณะอยู่ในลำไส้ไปเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์กระตุ้นผนังลำไส้ให้บีบตัว  ผู้ป่วยจึงรู้สึกอยากระบายอุจจาระ และเกิดการระบายอุจจาระตามมา

พิโคซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาพิโคซัลเฟตมีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น

  • ยาแคปซูลชนิดรับประทาน ขนาด 2.5 มิลลิกรัม/แคปซูล
  • ยาผงละลายน้า ขนาด 10 มิลลิกรัม/ซอง
  • ยาน้ำชนิดรับประทาน ขนาด 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร

พิโคซัลเฟตมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ขนาดการใช้ยาพิโคซัลเฟต จะขึ้นกับข้อบ่งใช้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีไป ในบทความนี้ ขอยกตัวอย่างขนาดยาพิโคซัลเฟตสำหรับใช้เป็นยาระบายก่อนที่จะเข้ารับการทำหัตถการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ หรือเอ็กซเรย์สวนแป้งลำไส้ใหญ่ หรือรับการผ่าตัดลำไส้ เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุ 9 ปีขึ้นไป: ใช้ยาชนิดผงละลายน้ำรับประทาน 1 ซอง พร้อมกับค่อยๆดื่มน้ำตามอีก 1,250 มิลลิลิตร ก่อนนอนก่อนวันที่ต้องทำหัตถการ 1 วัน, รับประทานซองที่ 2 ในช่วงเช้าของวันถัดมาพร้อมกับดื่มน้ำตามอีก 750 มิลลิลิตร โดยรับประทานก่อนเข้ารับการทำหัตถการ 5 - 9 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 4 - 9 ปี: รับประทาน 1 ซองในช่วงเช้า, และอีก ½ ซองในช่วงบ่าย
  • เด็กอายุ 2 - 4 ปี: รับประทาน ½ ซองในช่วงเช้า, และอีก ½ ซองในช่วงบ่าย
  • เด็กอายุ 1 - 2 ปี: รับประทาน ¼ ซองในช่วงเช้า,และอีก ¼ ซองในช่วงบ่าย

*อนึ่ง:

  • การใช้ยานี้กับเด็กในช่วงอายุ 1 - 9 ปี ให้รับประทานยาในช่วงก่อน 8 โมงเช้า, จากนั้นเว้นระยะ เวลา 6 - 8 ชั่วโมง ให้เด็กรับประทานยาช่วงที่ 2 ตอนบ่าย ตามขนาดรับประทานที่แพทย์ระบุ, และแพทย์จะเป็นผู้กำหนดการดื่มน้ำเพิ่มเติมหลังการรับประทานยาในแต่ละครั้ง
  • ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่ชัดเจนในการใช้ยานี้ในเด็กกลุ่มนี้ การใช้ยานี้ในเด็กกลุ่มนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป
  • ควรรับประทานยานี้ในช่วงท้องว่าง

*****หมายเหตุ: ขนาดและระยะเวลาของการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาพิโคซัลเฟต ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้อะไรอยู่ เพราะยาพิโคซัลเฟตอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาพิโคซัลเฟต สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาพิโคซัลเฟตตรงเวลา

พิโคซัลเฟตมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาพิโคซัลเฟตสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น

  • ปวดหัว
  • คลื่นไส้
  • เป็นตะคริวที่ท้อง
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • ท้องเสีย
  • วิงเวียน
  • ระดับเกลือโซเดียมในเลือดต่ำ
  • โพแทสเซียมในเลือดต่ำ

มีข้อควรระวังการใช้พิโคซัลเฟตอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาพิโคซัลเฟต: เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับ ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว, ผู้ที่มีภาวะปวดเกร็ง/ปวดบิด/ปวดบีบในกระเพาะอาหาร, ผู้ป่วยด้วยแผลในกระเพาะอาหาร, ผู้ป่วยด้วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ, ผู้ที่อยู่ในภาวะคลื่นไส้, ผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร/ลำไส้อุดตัน, ผู้ที่อยู่ในภาวะร่างกายเสียน้ำ/ภาวะขาดน้ำ,  ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย, มีภาวะเกลือแมกนีเซียมในร่างกายเกินมาตรฐาน, ผู้ป่วยทางเดินลำไส้อักเสบ, ผู้ป่วยไตอักเสบอย่างรุนแรง
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
  • ระวังการใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) และผู้สูงอายุ
  • *หยุดการใช้ยานี้ทันที หากพบอาการแพ้ยานี้หลังรับประทาน แล้วรีบไปโรงพยาบาลทันที /ฉุกเฉิน
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร
  • การใช้ยานี้ อาจรบกวนสมดุลของน้ำและเกลือแร่/อิเล็กโทรไลต์ของร่างกาย
  • สำหรับยาน้ำชนิดรับประทานของยานี้ หากเปิดขวดใช้แล้ว 28 วัน ให้ทิ้งยา, ไม่ควรใช้รับประทานต่อ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ com บทความเรื่อง วิธีทิ้งยาหมดอายุ)
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาพิโคซัลเฟตด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด  อาหารเสริม  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

พิโคซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาพิโคซัลเฟตมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น

  • การใช้ยาพิโคซัลเฟต ร่วมกับยาชนิดรับประทานทุกกลุ่ม เช่น ยาเบาหวาน ยาปฏิชีวนะ ยาเม็ดคุมกำเนิด, อาจทำให้การดูดซึมยาทุกกลุ่มน้อยลงจนส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา  เพื่อป้องกันภาวะดังกล่าว จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาพิโคซัลเฟต ร่วมกับยาขับปัสสาวะ อาจทำให้เกิดภาวะเกลือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษาพิโคซัลเฟตอย่างไร?

เก็บยาพิโคซัลเฟต: เช่น

  • เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น 
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

พิโคซัลเฟตมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาพิโคซัลเฟต มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Dulcolax Pico (ดัลโคแลค พิโค) Boehringer Ingelheim Limited
Picoprep (พิโคเพรบ) Ferring

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Sodium_picosulfate   [2022,Oct15]
  2. https://patient.info/medicine/sodium-picosulfate-dulcolax-pico  [2022,Oct15]
  3. https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Picoprep/?type=BRIEF  [2022,Oct15]
  4. https://www.medicinesforchildren.org.uk/medicines/sodium-picosulfate-for-constipation/   [2022,Oct15]
  5. https://www.drugs.com/cons/sodium-picosulfate-magnesium-and-citric-acid.html  [2022,Oct15]
  6. https://www.medicines.org.uk/emc/files/pil.905.pdf  [2022,Oct15]