พาร์กินสัน:ตอนที่ 10 ท้องผูกจังเลย

พาร์กินสัน-10


ปัญหาสุขภาพในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันนั้นไม่ได้มีเพียงแค่มือสั่น เดินลำบาก เคลื่อนไหวไม่สะดวกเท่านั้น ยังมีปัญหาระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย โดยเฉพาะท้องผูก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของลำไส้และกระเพาะอาหารนั้นต้องใช้สารสื่อประสาทโดปามีนเช่นเดียวกัน เมื่อสมองสร้างสารสื่อประสาทโดปามีนลดลง ก็ย่อมส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการท้องผูก และปัญหาการขับถ่ายร่วมด้วย

“หมอครับ พ่อของผมที่เป็นผู้ป่วยโรคพาร์กินสันนั้น มีปัญหาเพิ่มเติมนอกจากมือสั่นแล้ว เดินไม่ค่อยคล่อง ยังมีปํญหาท้องผูกมากครับ 4-5 วันจึงถ่ายอุจจาระ แล้วก็ต้องออกแรงเบ่งนานมาก จนผมกลัวว่าพ่อจะเป็นลมตอนออกแรงเบ่งครับ และสังเกตว่าช่วงนี้อาการมือสั่น ตัวแข็งก็เป็นมากขึ้นด้วย ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันหรือเปล่าครับ ช่วยพ่อผมด้วยครับ”

ปัญหาท้องผูกเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ป่วยพาร์กินสันเลยครับ เนื่องจากผู้สูงอายุเองส่วนหนึ่งก็มีปัญหาท้องผูกอยู่แล้ว ยิ่งมาเป็นพาร์กินสันอีกก็ยิ่งทำให้ท้องผูกมากขึ้นอีก ส่งผลให้ผู้ป่วยพาร์กินสันได้รับผลกระทบจากท้องผูกมากกว่าคนที่ไม่เป็นพาร์กินสัน เพราะเมื่อเกิดอาการท้องผูกขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ลำไส้ผิดปกติไปด้วย การดูดซึมอาหาร ดูดซึมยาก็เสียไปด้วย ทำให้ระดับยาในกระแสเลือดลดต่ำลง ไม่อยู่ในระดับการรักษาที่ได้ผล ผู้ป่วยยิ่งมีอาการของพาร์กินสันรุนแรงขึ้น เป็นวงจรที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ป่วยอย่างยิ่ง

เมื่อท้องผูกก็ทานอาหารไม่ค่อยได้ เมื่อทานไม่ได้สุขภาพก็แย่ ทานยาก็ไม่ได้ เพราะท้องอืดมาก นอกจากส่งผลต่อการดูดซึมยาแล้ว ยังส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ป่วยด้วย ทั้งหมดก็ทำให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง ดังนั้นผมจะแนะนำผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยทุกคนต้องดูแลเรื่องการทานอาหาร การขับถ่ายให้ดีทุกคน เพราะถ้าเกิดปัญหาท้องผูกหรือการทานอาหาร การขับถ่ายแล้วก็จะทำให้อาการของโรคทรุดลงได้

อาหารที่ทานจึงต้องมีผัก ผลไม้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ เคลื่อนไหวบ่อยๆ เดินออกกำลังกาย ทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ จะได้ไม่มีปัญหาท้องผูก และถ้าดีก็ควรขับถ่ายทุกๆ วัน ถ้ายังมีปัญหาอีก ก็ต้องใช้ยาเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ รวมทั้งยาระบายอ่อนๆ เพื่อให้การขับถ่ายเป็นปกติ ผมมักแนะนำเสมอว่าอย่าให้ท้องผูกติดต่อกันหลายๆ วัน ถ้าท้องผูกติดต่อกันจะแก้ไขได้ยากมาก ต้องแก้ตั้งแต่ต้น การใช้ยาระบายหรือแม้กระทั่งยาสวนถ่ายก็จำเป็นในบางราย

อย่าปล่อยให้ท้องผูกครับ ไม่ดีต่อสุขภาพเลย