พาร์กินสัน: ตอนที่ 1 มารู้จักโรคพาร์กินสันดีกว่า

พาร์กินสัน-1


โรคพาร์กินสัน คืออะไร ท่าทางจะน่ากลัว พอมือสั่น ใครๆทำไมต้องกลัว สงสัยจะรักษาไม่หาย เป็นแล้วตายหรือเปล่า ผ่าตัดรักษาหายหรือไม่ คำถามมีมากมาย เรามาคุยกันให้ละเอียดดีกว่าครับ โดยผมขอเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคพาร์กินสันให้ทะลุปุโปร่งเลยครับ อย่าลืมติดตามนะครับ

โรคพาร์กินสัน คืออะไร โรคพาร์กินสัน คือ โรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองเฉพาะส่วนที่สร้างสารสื่อประสาทโดปามีน/Dopamine (substantia nigra) ทำให้ขาดสารสื่อประสาทโดปามีน เมื่อร่างกายขาดสารสื่อประสาทชนิดนี้ ก็จะทำให้ร่างกายมีปัญหาในการเคลื่อนไหวเป็นหลัก คือ จะมีอาการมือสั่น เมื่อวางไว้เฉยๆ พอยกขึ้นก็ดีขึ้น แต่ถ้ามีกิจกรรมได้ระยะเวลาหนึ่งก็จะเริ่มมีอาการมือสั่นอีกครั้ง (resting and emerging tremor) โดยอาการนั้นจะเริ่มเป็นที่มือข้างเดียวก่อน มีเพียงส่วนน้อยมากๆ ที่เริ่มมีอาการที่เท้า

อาการที่สองคือ อาการทำอะไรช้าลง เคลื่อนไหวช้าลง (bradykinesia) เดินได้ช้า จะเริ่มทำกิจกรรมอะไรก็ช้า ไม่ว่าจะเดิน จะพูด จะเขียน หยิบจับอะไรก็ช้าไม่ถนัด ทำให้เกิดความสับสนว่าตนเองอ่อนแรง เป็นอัมพาตหรือไม่

อาการที่สาม คือ อาการเคลื่อนไหวจะไม่คล่องแคล่ว ช้า สั่นและแข็ง (cogwheel rigidity) เหมือนกับการเคลื่อนไหวของล้อเกวียนไปบนถนนที่ไม่เรียบ หรือเปรียบเสมือนการไขลานนาฬิกา จะรู้สึกว่ามันมีการหมุนและมีแรงต้าน สะดุดไม่เรียบเป็นระยะๆ

อาการที่สี่ คือ อาการล้มง่าย มีปัญหาการทรงตัว (postural instability) คนไข้จะล้มง่าย เดินลำบาก เริ่มเดินลำบากมาก เหมือนมีแม่เหล็กดูดเท้าไว้ (magnetic gait) แต่พอเดินไปแล้วก็จะหยุดลำบาก หน้าจะทิ่มไปข้างหน้า หยุดลำบาก

ลักษณะสำคัญในโรคพาร์กินสัน คือ อาการจะค่อยๆ เริ่มเป็น ค่อยๆ มีอาการที่ละข้างของร่างกาย ถึงแม้โรคนี้จะมีอาการนานเท่าใด ก็จะเป็นรุนแรงไม่เท่ากันทั้งสองข้าง และก็จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ตรงนี้เองที่แพทย์ใช้เป็นหลักในการให้การวินิจฉัยโรคพาร์กินสัน คือ ค่อยๆ เป็น พบในผู้สูงอายุ เป็นไม่เท่ากันทั้งสองข้าง ดังนั้นถ้าใครมีอาการข้างต้น แต่เป็นเร็ว เป็นพร้อมกันสองข้าง ก็จะช่วยให้แพทย์บอกได้ง่ายขึ้นว่าไม่น่าจะเป็นโรคพาร์กินสัน

ดังนั้นอย่าตกใจครับ ถ้าเรามีอาการสั่นก็ลองดูว่ามีอาการสั่นแบบโรคพาร์กินสันหรือไม่ ผมแนะนำให้ลองประเมินตนเองก็ได้ครับว่ามือสั่นแบบไหน ทำได้ไม่ยากครับ