พัฒนาการในเด็ก (ตอนที่ 4)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 1 มกราคม 2560
- Tweet
ด้านความปลอดภัยของเด็กวัยหัดเดิน อายุ 1-2 ปี
เนื่องจากเด็กวัยนี้สามารถเคลื่อนไหวไปรอบๆ ตัวมากขึ้น เด็กอาจจะได้รับอันตรายได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องคอยดูแลเด็กให้ดี เช่น
- อย่าปล่อยเด็กให้อยู่ใกล้น้ำ เช่น อ่างอาบน้ำ สระน้ำ โดยไม่มีคนดูแล เพราะเด็กอาจจมน้ำได้
- ทำรั้วกันบันได ล็อคประตูที่สามารถออกไปยังสถานที่อันตรายได้ เช่น โรงรถ ใต้ถุน
- ปิดรูปลั๊กไฟที่เด็กอาจแหย่มือเข้าไปได้
- เก็บเครื่องครัว เตารีด มีด กรรไกร ปากกา และของอื่นๆ ให้ไกลมือเด็ก
- อย่าปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพังแม้เพียงไม่กี่นาที
การดูแลสุขภาพเด็กวัยหัดเดิน อายุ 1-2 ปี
- ให้เด็กดื่มน้ำและนมจืดแทนที่จะดื่มน้ำหวาน และหลังอายุ 1 ปี แม้เด็กจะสามารถกินได้มากขึ้น แต่นมแม่ก็ยังคงเป็นอาหารที่ดีอยู่
- เด็กวัยนี้จะเลือกกินและเอาแน่ไม่ได้ ดังนั้น อาจจะมีอาหารสุขภาพให้เด็กเลือกกินและลองของใหม่ๆ ดู
- ไม่ควรให้เด็กมองจอภาพ (Screen media)
- ปล่อยให้เด็กเคลื่อนไหวไปเรื่อย เพื่อพัฒนาการของร่างกายให้แข็งแรง
เด็กวัยหัดเดิน (Toddlers) อายุ 2-3 ปี
เพราะเด็กวัยนี้ต้องการที่จะเป็นอิสระมากขึ้น ซนมากขึ้น เด็กจะมีการเปลี่ยนแปลงในการคิด การเรียน สังคม และอารมณ์ ที่ช่วยให้เขาเรียนรู้โลกใหม่
เด็กจะสามารถทำตามคำสั่งได้ 2-3 อย่าง สามารถเลือกวัตถุตามรูปร่างและสี เลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่และเพื่อน และแสดงอารมณ์ที่หลากหลาย
ในช่วงนี้พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีได้ดังนี้
- กำหนดเวลาในการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง
- ช่วยเด็กในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยการพาเด็กออกไปเดินเล่นข้างนอก
- สอนให้เด็กบอกชื่อและอายุของตัวเอง
- สอนเด็กให้ร้องเพลงง่ายๆ
- เอาใจใส่เด็ก ให้คำชมเมื่อเด็กทำตามคำสั่ง สอนเด็กด้วยอารมณ์ดีไม่เกรี้ยวกราด
บรรณานุกรม
1. Facts About Child Development. https://www.cdc.gov/ncbddd/childdevelopment/ [2016, December 31].