พักตับก่อนตับแข็ง (ตอนที่ 1)

พักตับก่อนตับแข็ง

ดร.นพ. บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า สสส.ร่วมกับเครือข่ายฯ รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรรษามาอย่างต่อเนื่อง จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ต่องานรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา ในกลุ่มอายุ 15 ปี ขึ้นไป จาก 25 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่า

ประชากร 14.88 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70.9 งดและลดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษา ในจำนวนนี้ 6.78 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 32.3 งดดื่มได้ตลอดพรรษา และอีกจำนวน 8.10 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 38.6 ลดหรืองดได้เป็นช่วงๆ ในขณะที่ 385 ชุมชนทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ส่งผลให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น ประเทศชาติประหยัดเงินได้มากถึง 6.4 หมื่นล้านบาท

ด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคมโรงพยาบาลน่าน จังหวัดน่าน กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสารเคมีที่เป็นพิษต่อตับ ส่วนตับมีหน้าที่เหมือนโรงงานกำจัดขยะ เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมากๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆ และเมื่อเกิดโรคขึ้นมา นั่นแสดงว่า ตับทำงานหนัก และสูญเสียการทำงานไปแล้ว ซึ่งบางคนเมื่อไปตรวจเลือดจึงพบว่า การทำงานของเอนไซม์ในตับลดลง

นพ.พงศ์เทพ อธิบายว่า สำหรับผลกระทบของแอลกอฮอล์ที่มีต่อตับ จะเริ่มจากการมีไขมันสะสมในตับ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในระยะเริ่มต้น หากหยุดดื่มตับจะกลับมาทำงานเป็นปกติ

ส่วนระยะต่อมาคือ ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ ตับจะมีขนาดใหญ่และกดเจ็บ แต่หากหยุดดื่มอาการจะดีขึ้นและอาจจกลับมาเป็นปกติ แต่หากยังดื่มต่อจะมีโอกาสลามเข้าสู่ระยะ 3 คือ ตับแข็ง

สำหรับการรักษาคือ ต้องหยุดดื่มเด็ดขาด เนื่องจากเป็นระยะสุดท้ายที่ผังผืดเกาะอยู่ที่เนื้อตับ ทำให้ตับมีลักษณะผิวไม่เรียบ ขรุขระ เป็นก้อน ผู้ป่วยระยะนี้มักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการดีซ่าน ท้องมาน หรืออาเจียนเป็นเลือดสดๆ เนื่องจากเส้นเลือดขอดในหลอดอาหารแตก นอกจากนี้ผู้ที่เป็นตับแข็งมีโอกาสเสี่ยงเกิดมะเร็งตับ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง

นพ.พงศ์เทพ อธิบายอีกว่า การทำงานของตับมีกำลังสำรองในการทำงานประมาณ 3 เท่า หากยังดื่มทุกวัน จะไม่รู้ตัวว่าตับถูกทำลาย และเมื่อตับถูกทำลายลงไปถึงร้อยละ 75 ร่างกายจะแสดงผลออกมาคือ โรคตับแข็ง ซึ่งตับจะไม่สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติอีกต่อไป

ดังนั้น การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยดูแลตับ พักตับไม่ให้ได้รับสารเคมีในช่วง 3 เดือน เท่ากับเป็นการช่วยให้ตับทำงานได้ดี ไม่ให้ตับเกิดความเสียหายมากขึ้น และอีกหลายๆ คน ก็ใช้เทศกาลเข้าพรรษาเป็นเป็นแรงจูงใจให้เลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้

โดยสถิติในสหรัฐอเมริกาพบว่า โรคตับแข็งถือเป็นสาเหตุของโรคที่ทำให้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่ 12

แหล่งข้อมูล

1. สสส.- สคล.ชวน "งดเหล้าครบพรรษา พักตับทั่วไทย". http://www.thaihealth.or.th/Content/32006-สสส.- สคล.ชวน "งดเหล้าครบพรรษา พักตับทั่วไทย".html [2016, August 25].

2. Cirrhosis of the Liver. http://www.webmd.com/digestive-disorders/cirrhosis-liver [2016, August 25].