ปวดขา (Leg pain)

บทความที่เกี่ยวข้อง
ปวดขา

ปวดขา (Leg pain) เป็นอาการที่พบได้บ่อยทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มีสาเหตุจากหลากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยเช่น

  • กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
  • ภาวะขาดน้ำของร่างกาย
  • การใช้งานกล้ามเนื้อขาเกินกำลัง
  • จากกล้ามเนื้อ เอ็น กระดูกขาได้รับบาดเจ็บ (เช่น กล้ามเนื้อฉีก เอ็นอักเสบ กระดูกขาร้าวจากการใช้งานเกินกำลังที่เรียกว่า Stress fracture)
  • จากโรคเบาหวานที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเสื่อมถอยและการอักเสบเรื้อรังชนิดไม่ติดเชื้อของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของขาเช่น เอ็น กล้ามเนื้อ ข้อกระดูก ประสาท และหลอดเลือด
  • จากภาวะขาดเลือดจากโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
  • จากการคั่งของเลือดดำขาและการไหลเวียนโลหิตของขาไม่ดีจากโรคต่างๆเช่น หลอดเลือดดำขาขอด การสูบบุหรี่ และโรคหัวใจ
  • จากปลายประสาทอักเสบเช่น จากโรคเบาหวาน และการดื่มสุราเรื้อรัง
  • จากภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำของขา และ
  • จากโรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลัง

การดูแลตนเองเมื่อมีอาการปวดขาคือ

  • พักการใช้งานของขาด้านที่ปวด
  • นวดเบาๆในบริเวณที่ปวด
  • ยกขาด้านที่ปวดสูงเสมอ
  • ประคบอุ่นในบริเวณที่ปวด (แต่บางกรณีอาจประคบเย็นเช่น อาการปวดจากเป็นตะคริว หลังกล้ามเนื้อคลายตัว)
  • กินยาบรรเทาปวดพาราเซตามอล (Paracetamol)
  • สวมรองเท้าและถุงเท้าที่เหมาะสม
  • ควบคุมโรคเรื้อรังต่างๆให้ได้ดี และ
  • เลิกบุหรี่และสุรา

ควรพบแพทย์หรือแพทย์โรคกระดูกเมื่อ

  • ปวดขามากขณะใช้งาน (อาจจากกระดูกหัก Stress fracture)
  • ขาบวม แดง ร้อน ร่วมกับมีไข้ (อาการของการติดเชื้อในเนื้อเยื่อของขาหรือมีลิ่มเลือดในหลอดดำเลือดขา)
  • ขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำและ/หรือบวมและ/หรือเย็น (ขาขาดเลือด)
  • มีอาการขาชาร่วมกับการปวดร้าวมาจากเอว (อาจจากโรคหมอนรองกระดูก)
  • เจ็บปวดขาร่วมกับขาชา คันผิวหนังที่ขา และปัสสาวะมาก (ผลข้างเคียงจากโรคเบา หวาน)
Updated 2015, Sept 5