ปลูกไขกระดูก ปลูกชีวิตใหม่ (ตอนที่ 2)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 2 ตุลาคม 2559
- Tweet
การปลูกถ่ายไขกระดูกประสบความสำเร็จในการใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น
- ลูคีเมีย (Leukemias)
- โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่ออย่างรุนแรง (Severe aplastic anemia)
- โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphomas)
- โรคมะเร็งมัลติเพิลมัยอีโลมา (Multiple myeloma)
- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Immune deficiency disorders)
- มะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid tumor cancers) บางชนิด
หรือกล่าวได้ว่า การปลูกถ่ายไขกระดูกสามารถใช้เพื่อ
- รักษาโรคด้วยการเปลี่ยนไขกระดูกที่ไม่ดีด้วยไขกระดูกใหม่ เช่น ลูคีเมีย โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ และโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle cell anemia)
- กระตุ้นระบบภูมิต้านทานในร่างกายเพื่อให้ต่อสู้กับลูคีเมียหรือมะเร็งต่างๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่หลังจากที่ทำเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด
- ทดแทนไขกระดูกเก่าที่ถูกทำลายจากการให้เคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดในปริมาณ (Doses) ที่มาก เพื่อรักษาโรคร้าย เพราะไขกระดูกจะถูกทำลายหรือเสียหายอย่างถาวร เช่น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) มะเร็งต่อมหมวกไตในเด็ก (Neuroblastoma)
- ทดแทนไขกระดูกเก่าที่ถูกทำลายจากโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น ภาวะฮอร์เนอร์ (Hurler's syndrome) และโรคประสาทถดถอย หรือโรคอะดรีโนลิวโคดีสโทรฟี่ (Adrenoleukodystrophy = ALD)
ทั้งนี้ ก่อนดำเนินการต้องทำการปรึกษาข้อดีและความเสี่ยงของการปลูกถ่ายไขกระดูกด้วย สำหรับปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจว่า ควรทำการปลูกถ่ายไขกระดูกหรือไม่ ได้แก่
- อายุ สุขภาพโดยรวม และประวัติการรักษา
- ขอบเขตของโรค
- ผู้บริจาคไขกระดูก
- ความอดทนต่อยาบางชนิดและ ขั้นตอนการรักษา
มีการนับวันสำหรับขั้นตอนการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งเป็นไปเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าใจถึงแผนการ ความเสี่ยง และขั้นตอนที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา โดย
- วันที่ทำการปลูกถ่ายไขกระดูกจะนับเป็นวันที่ 0
- วันที่เกิดก่อนวันทำการปลูกถ่ายไขกระดูกจะนับว่าเป็นวันที่ – เช่น -8 เป็นวันที่ผู้ป่วยต้องไปอยู่โรงพยาบาลเพื่อการเตรียมการปลูกถ่ายไขกระดูก
- วันที่เกิดหลังวันทำการปลูกถ่ายไขกระดูกจะนับว่าเป็นวันที่ + เช่น +1, +2
แหล่งข้อมูล
1. Bone Marrow Transplantation. http://www.hopkinsmedicine.org/healthlibrary/conditions/hematology_and_blood_disorders/bone_marrow_transplantation_85,P00086/ [2016, October 1].