ปฏิบัติการในโรงพยาบาล - จากมุมมองของผู้บริหาร
ตอนที่ 144 : การว่าจ้างจากภายนอก
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 18 พฤษภาคม 2557
- Tweet
ใน 3 ทศวรรษที่ผ่านมา แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information technology : IT) ภายในโรงพยาบาล ทำหน้าที่ให้บริการด้านข้อมูลและสารสนเทศ แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มแสดงความสนใจในการว่าจ้างจากภายนอก (Outsource) ทำหน้าที่บางส่วนหรือทั้งหมดของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
เหตุผลของการเกิดแนวโน้มดังกล่าว มีหลากหลายด้วยกัน บางโรงพยาบาลไม่มีบุคลากรที่มีทักษะและความชำนาญ หรือไม่มีเวลาและทรัพทยากรอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงสถานะของแผนก รวมทั้งไม่สามารถดำเนินการโครงการ (Project) ใหม่ๆ หรือให้บริการใหม่ๆ ไปตามวิวัฒนาการเทคโนโลยีสารสนเทศ
โรงพยาบาลบางแห่ง เลือกที่จะว่าจ้างจากภายนอกในบางเรื่องเท่านั้น อาทิ การให้บริการ “ศูนย์แก้ปัญหา” (Help desk) หรือพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้บุคลากรภายใน มุ่งเน้นไปยังงานหลักของการติดตั้ง หรือสนับสนุนโปรแกรมประยุกต์ ที่ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาล
แต่ก็มีโรงพยาบาลบางแห่งที่ตัดสินใจว่าจ้างจากภายนอก มาให้บริการโปรแกรมประยุกต์ (Application service provider : ASP) โดยบริหารทั้งระบบ ซึ่งรวมทั้งการบริหารข้อมูล และในการสนับสนุนทางด้านเทคนิค โดยมีจุดหมายที่จะควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม ให้อยู่ในงบประมาณที่จัดสรรไว้
แต่มิได้หมายความว่า การว่าจ้างจากภายนอก จะถูกกว่าการมีแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศภายในโรงพยาบาลเองเสมอไป ในบางครั้ง ผู้บริหารใหม่ที่เพิ่งเข้ามารับผิดชอบ อาจค้นพบปัญหาที่หมักหมมมานาน อันเป็นผลจากความผิดพลาดในการบริหารในอดีต
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมประยุกต์ไม่สามารถทำงานได้ดี [เนื่องจากปริมาณภาระงานที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป] โครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มไม่มีเสถียรภาพ และบุคลากร [ที่เข้า-ออกตลอดเวลา จน] เสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน ในกรณีเช่นนี้ การว่าจ้างจากภายนอก อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับโรงพยาบาล
ในการประเมินว่า จะว่าจ้างจากภายนอกเพียงบางส่วน หรือทั้งแผนก จำต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ในเรื่องความรู้และทักษะความชำนาญของบุคลากรที่มีอยู่ ความยากง่ายในการแสวงหาและรักษาบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม การจัดลำดับความสำคัญของระบบสารสนเทศเปรียบเทียบกับส่วนผสมของทรัพยากรที่มีอยู่
นอกจากผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการว่างจ้างจากภายนอกเปรียบเทียบกับความเสี่ยงแล้ว คำถามมีอยู่ว่า ควรว่าจ้างจากภายนอกเข้ามาจัดการส่วนใดหรือทั้งแผนก และจะเฝ้าติดตาม (Monitor) และประเมินผลของการว่าจ้างจากภายนอกได้อย่างไร ในแง่ของความเร็วและคุณภาพของบริการ กล่าวโดยสรุป การจะตัดสินใจบริหารเองหรือว่าจ้างจากภายนอก ขึ้นอยู่กับการประเมินประสิทธิผลของบริการ เปรียบเทียบกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผมขอเชิญชวนคุณผู้อ่านให้ (1) เขียนมาสอบถามเนื้อหาที่มีข้อสงสัย เพื่อความกระจ่างขึ้น (2) ชี้แนะข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือสิ่งขาดตกบกพร่อง เพื่อการแก้ไขให้ถูกต้อง (3) แสดงความคิดเห็นในแต่ละตอน ทั้งติและชม เพื่อการปรับปรุงให้ดีขึ้น และ (4) แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของคุณผู้อ่าน เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชนร่วมกัน ครับ
แหล่งข้อมูล
- Wagner, Karen A., Frances W. Lee and John P. Glaser (2009). Health Care Information Systems : A Practical Approach for Health Care Management (2th Ed). San Francisco, CA : Jossey-Bass, A Willey Imprint.
- ประสบการณ์จากเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ (โรงพยาบาลรามาธิบดี) และโรงพยาบาลประสานมิตร (มูลนิธิสมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทย)