บ้านหมุน (ตอนที่ 1)

บ้านหมุน

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า อาการบ้านหมุน คือ มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม หูอื้อ การได้ยินลดลง มีเสียงในหู ทรงตัวลำบาก และมักรู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน หรือรู้สึกว่าตัวเองหมุนทั้งที่ไม่มีการเคลื่อนไหว คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน

จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 50 มีสาเหตุเกี่ยวกับหู เช่น น้ำในหูไม่เท่ากันพบร้อยละ 10 โดยผู้ป่วยจะมีอาการหูอื้อ เวียนศีรษะเกิน 20 นาที แต่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ลมออกหู การได้ยินลดลงจากหูข้างเดียวกัน เป็นๆ หายๆ และเป็นมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องนอกหู เช่น ความดันโลหิตสูง ไมเกรน เมารถ เมาเรือ การใช้ยาฆ่าเชื้อบางชนิด เป็นต้น

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญกับผู้ป่วยมาก เพราะถ้าได้รับการรักษาในระยะแรกจะได้ผลดีกว่าระยะหลัง ดังนั้น หากสงสัยว่าตนเองมีความผิดปกติรู้สึกเวียนศีรษะบ้านหมุนไม่ควรคาดเดาอาการ แล้วซื้อยามารับประทานเอง ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ โรคบ้านหมุนเป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความรำคาญและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แม้บ้านหมุนไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่ถ้าอาการบ้านหมุนเกิดขึ้นระหว่างทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกับเครื่องจักรกล ยานพาหนะที่มีความเร็วสูง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยง เมื่อเสียการทรงตัวอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียต่อร่างกาย หรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต

นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับรายที่มีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนมากๆ จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับทดแทนร่างกายจะขาดน้ำและเกลือแร่ ส่งผลทำให้ความดันในเลือดต่ำ จนอาจทำให้เกิดภาวะช็อกและอาจเสียชีวิตได้

นพ.สุพรรณ แนะนำว่า เมื่อมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนขณะกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ควรหยุดแล้วนั่งพัก เพราะหากฝืนไม่หยุดพักอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ กรณีมีอาการเวียนศีรษะหรือบ้านหมุนมาก ๆ ควรนอนราบบนพื้นที่ไม่มีการเคลื่อนไหวและมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่ง จนอาการทุเลาลงจึงค่อยๆ ลุกขึ้น ถ้ายังรู้สึกง่วงหรือเพลียก็ควรนอนหลับพักผ่อนเพราะหลังตื่นนอนอาการมักจะดีขึ้น

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น การหมุนหรือหันศีรษะไวๆ การเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว การก้ม เงยคอหรือหันอย่างเต็มที่ ความเครียด ความวิตกกังวล การอดนอน งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เป็นต้น รวมถึงเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้

แหล่งข้อมูล

1. อาการ “บ้านหมุน” ไม่อันตราย แต่อาจถึงตาย. http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000005898 [2016, January 31].