บอกเล่าเก้าสิบ ตอนที่ 10: ซื้อยาแก้ปวดดีจริง?

บอกเล่าเก้าสิบ

เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคปวดศีรษะไมเกรนเป็นโรคที่พบบ่อย และทุกคนที่เป็นจะคิดว่าโรคนี้รักษาไม่หาย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ซื้อยาแก้ปวดไมเกรนทานเองก็ได้ ไม่ต้องไปหาหมอให้เสียเวลา ซึ่งช่วงแรกๆ ก็ไม่เป็นไร อาการก็ดีขึ้นเมื่อซื้อยามาทานเอง แต่พอผ่านไปหลายๆ ปีก็เริ่มมีปัญหามากขึ้น ทานยาแก้ปวดก็ไม่ได้ผล ต้องใช้ยามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ผลอีก จึงต้องมาหาแพทย์

“คุณหมอขาหนูปวดหัวมากเลย ทรมานจริงๆ นอนก็ไม่ได้ กินก็ไม่ได้ ทรมานสุดๆ ช่วยหนูด้วย หนูจะเป็นมะเร็งสมองหรือเปล่า” ผมต้องค่อยๆ เริ่มสอบถามประวัติจากผู้ป่วยอย่างค่อยเป็นต่อยไป เพราะผู้ป่วยเอาแต่บ่นว่าปวดหัวมากตลอดเวลา ไม่ยอมเล่าประวัติอย่างอื่นๆ บอกอย่างเดียวว่าปวดหัวมากๆ หมอต้องรีบรักษาให้หายปวดโดยเร็ว ผมต้องใช้เวลานานเกือบชั่วโมงจึงได้ข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยจนได้ สรุปว่าผู้ป่วยมีประวัติชัดเจนว่าเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนชนิดมีอาการเตือน (migraine with aura) ช่วงแรกปวดหัวไม่บ่อยซื้อยาทานเองก็หายดี ผ่านไปประมาณ 3 ปี เริ่มมีอาการปวดรุนแรงมากขึ้น ต้องใช้ยาแก้ปวดมากขึ้นๆ ต้องไปฉีดยาแก้ปวดที่โรงพยาบาลทุกสัปดาห์ ระยะเวลาต่อมาก็ต้องมาฉีดยาแก้ปวดเกือบทุกวัน เริ่มหยุดงานบ่อยมากขึ้น ทำงานไม่ได้เลย นอนก็ไม่ได้ อาการปวดหัวรุนแรงเป็นตลอดเวลา ถ้าไม่มาหาหมอคงตายแน่ๆ จึงมาหาหมอ

โรคปวดศีรษะไมเกรนนั้นเป็นโรคที่พบบ่อยมาก คนทั่วไปก็คุ้นเคยว่าถ้าปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุ๊บๆ ก็บอกว่าเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนได้เลย และเมื่อเชื่อว่าตนเองเป็นไมเกรนก็ซื้อยาทานเอง ยาที่ซื้อทานก็คือ ยาคาร์เฟอก็อต (Cafergot) หรือเบลลากอล (Bellergal) มาทานเอง จากการทานยาเฉพาะยาแก้ปวดตอนที่มีอาการปวดเท่านั้น ต่อมาก็ใช้เป็นประจำ ทานยา 3 เวลาหลังอาหาร และต่อมาใช้เป็นครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง จนเกิดภาวะติดยาหรือปวดศีรษะจากการใช้ยาแก้ปวดเกินขนาด (medication overuse headache)

จริงแล้วโรคปวดศีรษะไมเกรนมีลักษณะสำคัญ คือ ปวดตุ๊บๆ บริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง แต่ถ้าอาการเป็นมากขึ้นก็มีโอกาสเป็น 2 ข้างได้ และอาการปวดศีรษะข้างเดียวนั้นก็จะเปลี่ยนข้างมาด้วย ไม่ใช่เป็นข้างหนึ่งข้างใดตลอดโดยไม่เปลี่ยนข้างเลย บางคนพบอาการนำมาก่อน เช่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด มองเห็นภาพผิดปกติ เห็นแสงระยิบระยับ เส้นซิกแซก บางรายที่รุนแรงอาจปวดศีรษะร่วมกับอาเจียน เมื่อได้นอนพักจะหายดี ช่วงเวลาไม่ปวดก็จะเป็นปกติ การปวดแต่ละครั้งนาน 1-4 ชั่วโมง อาการปวดมักเป็นมากถ้ามีสิ่งกระตุ้น เช่น อากาศร้อน เครียด มีรอบประจำเดือน การรักษาประกอบด้วย 2 ระยะ คือ ระยะปวดหัวต้องให้ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาคาร์เฟอก็อต ร่วมกับยาแก้อาเจียนถ้ามีอาการอาเจียนร่วมด้วย ถ้าอาการปวดหัวนั้นเป็นบ่อยๆ เช่น 2-3 ครั้งต่อเดือน ควรป้องกันการเป็นซ้ำ โดยการทานยาป้องกันต่อเนื่อง 6-9 เดือน ก็จะมีโอกาสหายประมาณร้อยละ 50

ผมอยากบอกว่าโรคไมเกรนเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ เพียงแค่ท่านดูแลตนเองให้ดี หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น และพบแพทย์เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสม การซื้อยาทานเอง มีข้อจำกัด และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้