แด่...ทาสแมวทั้งหลาย (ตอนที่ 2)

ทาสแมวทั้งหลาย-2

      

      กลาก (Ringworm / Dermatophytosis / Tinea) เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากกลุ่มของเชื้อรา ซึ่งสปอร์ (Spore) ของเชื้อราสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นปีในผ้าห่ม เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หวี และตามที่ต่างๆ

      กลากเป็นโรคติดต่อ สามารถเป็นได้ทั้งคนและสัตว์ เกิดจากการติดเชื้อราสายพันธุ์ที่เรียกว่า Trichophyton, Microsporum และ Epidermophyton ซึ่งสามารถมีอายุได้นานในดิน แล้วคนหรือสัตว์ติดเชื้อกลากหลังสัมผัสกับ ดิน สัตว์ หรือคนด้วยกันเอง

      มีงานวิจัยหนึ่งที่ระบุว่า เมื่อใดที่แมวเป็นกลาก จะมีโอกาสที่คนในบ้านจะติดเชื้อกลากด้วยร้อยละ 30-70 โดยกลากในแมวจะหายเองโดยไม่ต้องรักษา แต่จะใช้เวลา 9-12 เดือน ซึ่งในระหว่างนี้ขนแมวอาจหลุดร่วง และเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ

      โดยอาการที่เป็นจะแตกต่างกันขึ้นกับบริเวณที่ติดเชื้อซึ่งมีลักษณะทั่วไปดังนี้

  • แดง คัน เป็นเกล็ด (Scaly) เป็นปื้น (Patches)
  • ปื้นจะกลายเป็นตุ่มน้ำ (Blisters)
  • ปื้นอาจจะเป็นสีแดงที่ขอบหรือดูคล้ายวงแหวน

      ทั้งนี้อาการจะปรากฏระหว่างวันที่ 4-14 หลังการติดเชื้อ

      กลากมีหลายชื่อขึ้นกับบริเวณที่เป็น ซึ่งได้แก่

  • ที่หนังศีรษะ (Tinea capitis) มักเป็นในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กอายุ 3-7 ปี หนังศีรษะจะตกสะเก็ด คัน แดง ผมร่วง หัวล้านเป็นจุดวงกลม
  • ที่ร่างกาย แขน ขา และ ลำตัว (Tinea corporis) มักเป็นปื้นรูปวงกลม ส่วนใหญ่กลากชนิดนี้จะเกิดที่เท้าหรือเล็บก่อน แล้วจึงกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย

      กลากชนิดนี้เป็นได้ทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยชนิดเฉียบพลันจะเกิดขึ้นทันที คันเป็นปื้นแดงและอาจมีหนองกระจายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนชนิดเรื้อรังจะค่อยๆ มีผื่นตามข้อพับ เป็นชนิดที่รักษาได้ยากกว่าและมักจะกลับมาเป็นซ้ำอีก

  • ที่ขาหนีบ หรือที่เรียกว่า โรคสังคัง (Jock itch / Tinea cruris) จะมีอาการเป็นเกล็ด ตกสะเก็ด คัน เป็นจุดแดง มักเกิดในผู้ชายสูงอายุ
  • ที่เท้า หรือที่เรียกว่า โรคน้ำกัดเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต (Athlete’s foot / Tinea pedis) เป็นกลากชนิดที่พบมากที่สุด แต่รักษายากที่สุด มักเกิดในคนที่ชอบเดินเท้าเปล่าในที่สาธารณะที่มีเชื้อแพร่กระจายอยู่ เช่น สระว่ายน้ำ ที่อาบน้ำฝักบัว (Showers) ล็อคเกอร์เก็บของ (Locker rooms)

      โดยเท้าจะมีอาการแดง บวม คัน ผิวลอก ผิวแตก เจ็บ และอาจจะมีกลิ่นเหม็นในรายที่รุนแรงอาจมีตุ่มน้ำ

      

แหล่งข้อมูล:

  1. Ringworm. https://www.healthline.com/health/ringworm#types [2018, October 4].
  2. Definition of Ringworm. https://www.cdc.gov/fungal/diseases/ringworm/definition.html [2018, October 4].
  3. Ringworm. https://www.medicinenet.com/ringworm/article.htm#what_does_the_term_%3Cem%3Eringworm%3C/em%3E_mean [2018, October 4].