ทรานิลซัยโปรมีน (Tranylcypromine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาทรานิลซัยโปรมีน (Tranylcypromine หรือ Tranylcypromine sulfate) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างเคมีเลียนแบบยาAmphetamine และจัดอยู่ในกลุ่มยาMAOIs ทางคลินิกนำมาใช้รักษา โรคซึมเศร้า และอาการวิตกกังวล รูปแบบยาแผนปัจจุบันเป็นยาชนิดรับประทาน ตัวยานี้จะถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้เพียงประมาณ 50% ตับจะใช้เอนไซม์ CYP 2A6 (Cytochrome P450 2A6), CYP2C19 (Cytochrome P450 2C19), และ CYP2D6 (Cytochrome P450 2D6) เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของยาทรานิลซัยโปรมีนก่อนที่จะถูกขับออกจากร่างกายโดยผ่านไปกับปัสสาวะและอุจจาระ

เงื่อนไขที่แพทย์ใช้เป็นเหตุผลประกอบว่าผู้ป่วยเหมาะสมที่จะใช้ยาทรานิลซัยโปรมีน หรือไม่ คือ

  • ผู้ป่วยต้องไม่เคยแพ้ยานี้
  • ผู้ป่วยต้องไม่มีโรคประจำตัวดังต่อไปนี้ อาทิเช่น โรคพอร์ไฟเรีย(Porphyria) โรคหลอดเลือดหัวใจ(Cardiovascular disease) โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (Cerebrovascular disease) โรคฟีโอโครโมไซโตมา(Pheochromocytoma), โรคตับหรือมีภาวะตับทำงานผิดปกติ
  • ต้องไม่ใช่ผู้ป่วยที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด
  • ต้องไม่ใช่ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารประเภทมีส่วนประกอบของสาร Tyramine(สารที่พบได้ในอาหารแปรรูป หรือหมักดอง เช่น เนยแข็ง/Cheese เบียร์ เนื้อสัตว์แปรรูป)สูง หรือดื่มกาแฟ/สารกาเฟอีนทุกวัน ติดสุรา เพราะสารอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวล้วนแล้วส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยานี้ทั้งสิ้น โดยจะทำให้ผลข้างเคียงจากยานี้สูงขึ้น
  • ห้ามใช้ยาทรานิลซัยโปรมีน ร่วมกับยาต่อไปนี้ เช่น Sibutramine, Phentermine, Loratadine, Apraclonidine, Bupropion , Buspirone, A catechol-O-methyltransferase(COMT)inhibitor ,Hydrochlorothiazide, Levodopa, Meperidine, Codeine, Nefazodone, Atomoxetine, Selective serotonin reuptake inhibitor(SSRI), Serotonin-norepinephrine reuptake inhibitor(SNRI), Sympathomimetic , TCAs, Tramadol, Trazodone, TriptanหรือTryptophan
  • ต้องไม่ใช่ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับยา Carbamazepine, Cyclobenzaprine, Furazolidone, Linezolid, Maprotiline, และยากลุ่มMAOI เมื่อ 7 วันที่ผ่านมา

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการสั่งจ่ายยานี้ ยังต้องมีข้อระวังเพิ่มเติมอีกหลายประการเพราะยาที่ใช้รักษาอาการซึมเศร้าอย่างยาทรานิลซัยโปรมีนสามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากทำร้ายตนเองเมื่อนำมาใช้กับเด็กหรือผู้ป่วยที่เพิ่งมีอายุย่างเข้าวัยผู้ใหญ่ ดังนั้นญาติผู้ป่วยจะต้องคอยดูแลพฤติกรรมของผู้ป่วยระหว่างที่ใช้ยานี้ด้วย

นอกจากนี้ ยาทรานิลซัยโปรมีน อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง กรณีนี้ต้องหยุดการใช้ยานี้ทันที หรือการออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งอาจทำให้ผิวหนังที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงเกิดรอยไหม้ได้ง่ายกว่าปกติ กรณีเกิดอาการต่างๆดังกล่าว ต้อรีบมาโรงพยาบาลโดยด่วน โดยไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด

*การรับประทานยาทรานิลซัยโปรมีนเกินขนาด จะทำให้เกิด อาการตัวสั่น รู้สึกวิตกกังวล สับสน วิงเวียน ง่วงนอน อาจรู้สึกตื่นเต้น อาจเกิดอาการเป็นลม หัวใจเต้นเร็ว มีไข้ ใบหน้าแดง ปวดศีรษะ กล้ามเนื้อกระตุก นอนไม่หลับ เกิดอาการชัก เหงื่อออกมาก การช่วยเหลือ คือต้องรีบนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลโดยทันที/ฉุกเฉิน

อนึ่ง หากมีข้อสงสัยการใช้ยานี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ป่วย หรือจากเภสัชกรตามสถานพยาบาลหรือตามร้านขายยาได้ทั่วไป

ทรานิลซัยโปรมีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร

ทรานิลซัยโปรมีน

ยาทรานิลซัยโปรมีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ รักษาโรคซึมเศร้า

ทรานิลซัยโปรมีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาทรานิลซัยโปรมีน มีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า Monoamine oxidase ทำให้ระดับสาร Monoamine ในบริเวณระบบประสาทมีปริมาณมากขึ้น สาร Monoamine จะทำให้ความรู้สึกซึมเศร้าลดน้อยและหายไป ด้วยกลไกนี้จึงเป็นที่มาของสรรพคุณ

ทรานิลซัยโปรมีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาทรานิลซัยโปรมีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วย Tranylcypromine ขนาด 10 มิลลิกรัม/เม็ด

ทรานิลซัยโปรมีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาทรานิลซัยโปรมีนมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่: เริ่มต้นรับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น หากจำเป็นหลังจากเริ่มใช้ยาไปแล้ว 1 สัปดาห์ แพทย์อาจปรับเพิ่มขนาดรับประทานในมื้อเย็นเป็น 20 มิลลิกรัม กรณีที่อาการยังไม่เป็นที่น่าพอใจ แพทย์อาจปรับ เพิ่มขนาดรับประทานอีก 10 มิลลิกรัมในช่วงกลางวัน ยานี้สามารถรับประทานก่อน หรือพร้อมอาหารก้ได้
  • เด็ก: การใช้ยานี้จะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีๆไป

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาทรานิลซัยโปรมีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคตับ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาทรานิลซัยโปรมีน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาทรานิลซัยโปรมีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ให้รับประทานยาขนาดปกติ

แต่อย่างไรก็ดี เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาทรานิลซัยโปรมีนตรงเวลาในทุกๆวัน

ทรานิลซัยโปรมีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาทรานิลซัยโปรมีนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น เกิดภาวะความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรงหรือความดันโลหิตต่ำ ใบหน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว ชีพจรเต้นผิดปกติ
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ง่วงนอน วิงเวียน ปวดศีรษะ อาการชาตามร่างกาย ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน ความจำแย่ลง
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ประสาทหลอน มีความรู้สึกว่าติดยาชนิดนี้ อยากทำร้ายตนเอง
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ปากแห้ง คลื่นไส้ ท้องเสียหรือท้องผูก ปวดท้อง อาเจียน
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ปัสสาวะขัด
  • ผลต่อระบบเลือด: เช่น โลหิตจาง มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ไขกระดูกลดการสร้างเม็ดเลือด
  • ผลต่อตับ: เช่น ตับอักเสบ ดีซ่าน
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น กล้ามเนื้อหดเกร็ง/ตะคริว
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคัน ผมร่วง
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เบื่ออาหาร
  • อื่นๆ: เช่น สมรรถนะทางเพศถดถอย

มีข้อควรระวังการใช้ทรานิลซัยโปรมีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาทรานิลซัยโปรมีน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานหรือหยุดยานี้ด้วยตนเอง
  • การใช้ยานี้กับ เด็ก สตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
  • ระหว่างการใช้ยานี้ ต้องคอยตรวจสอบความผิดปกติของความดันโลหิตร่วมด้วยตามคำแนะนำของ แพทย์/ พยาบาล/ เภสัชกร
  • หากพบอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ปวดศีรษะบ่อยมาก ซึ่งเป็นสัญญาณของความดันโลหิตสูง ให้หยุดใช้ยานี้ แล้วรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยด่วน โดยไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • ระหว่างการใช้ยานี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทโปรตีนสูง เช่น โปรตีนสกัด ตับ ผลไม้ตากแห้ง ชีส(Cheese) โยเกิร์ต เบียร์ เป็นต้น
  • หากพบอาการแพ้ยานี้ เช่น มีผื่นขึ้นเต็มตัว แน่นหน้าอก/อึดอัด/หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ให้หยุดการใช้ยานี้ทันที พร้อมกับรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาทรานิลซัยโปรมีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

ทรานิลซัยโปรมีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาทรานิลซัยโปรมีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • ห้ามใช้ยาทรานิลซัยโปรมีนร่วมกับยา Hydrocodone เพราะอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงของยาทรานิลซัยโปรมีนติดตามมา เช่น หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ความดันโลหิตต่ำ เป็นลม มีภาวะโคม่า
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาทรานิลซัยโปรมีนร่วมกับยา Amlodipine ด้วยจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำมาก มีอาการปวดศีรษะ และวิงเวียนมากตามมา
  • การใช้ยาทรานิลซัยโปรมีนร่วมกับยา Chlorpheniramine จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงของยาทรานิลซัยโปรมีนเพิ่มมากขึ้น เช่น วิงเวียน ง่วงนอน ตาพร่า ปากแห้ง ท้องผูก ใบหน้าแดง เหงื่อออกน้อย เป็นต้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • ห้ามใช้ยาทรานิลซัยโปรมีนร่วมกับยา Ergotamine ด้วยจะทำให้เกิดภาวะ Serotonin syndrome ซึ่งมักพบเห็น อาการประสาทหลอน เกิดลมชัก รู้สึกสับสน ความดันโลหิตผิดปกติ(อาจต่ำหรือสูงก็ได้) จังหวะการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลง/หัวใจเต้นผิดจังหวะ มีไข้ ตาพร่า คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

ควรเก็บรักษาทรานิลซัยโปรมีนอย่างไร?

ควรเก็บยาทรานิลซัยโปรมีนที่อุณหภูมิระหว่าง 15-30 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ทรานิลซัยโปรมีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาทรานิลซัยโปรมีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
PARNATE (พาร์เนท)GlaxoSmithKline

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Tranylcypromine [2017,Aug5]
  2. https://www.drugs.com/cdi/tranylcypromine.html[2017,Aug5]
  3. https://www.drugs.com/pro/tranylcypromine.html[2017,Aug5]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/tranylcypromine-index.html?filter=3&generic_only= [2017,Aug5]
  5. https://www.drugbank.ca/drugs/DB00752[2017,Aug5]
  6. http://www.mims.com/thailand/drug/info/tranylcypromine/?type=brief&mtype=generic[2017,Aug5]
  7. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2010/012342s063lbl.pdf[2017,Aug5]