ถุงน้ำดีอักเสบ (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 21 เมษายน 2561
- Tweet
ส่วนการลดความเสี่ยงของถุงน้ำดีอักเสบก็คือ การป้องกันถุงน้ำดีด้วยการ
1. ลดน้ำหนักอย่างช้าๆ – เพราะการลดน้ำหนักที่รวดเร็วจะเพิ่มความเสี่ยงที่ถุงน้ำดี (ควรตั้งเป้าลดน้ำหนักให้ได้เพียงสัปดาห์ละ 0.5-1 กิโลกรัม)
2. รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม – ด้วยการลดแคลอรี่และเพิ่มการออกกำลังกาย เพราะการมีน้ำหนักมากจะมีความเสี่ยงของถุงน้ำดีมาก
3. เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ – เพราะการกินอาหารที่มีไขมันสูงและไฟเบอร์ต่ำจอะเพิ่มความเสี่ยงต่อท่อน้ำดี ให้กินผลไม้ ผักและธัญพืช
สำหรับการวินิจฉัยโรคทำได้ด้วยการ
• การตรวจร่างกาย ซึ่งจะพบว่ามีอาการ
o เป็นไข้ ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia) และกดแล้วเจ็บที่บริเวณช่องท้องขวาด้านบน (RUQ) หรือบริเวณยอดอก (Epigastric region)
o คลำพบถุงน้ำดี (Palpable gallbladder) ที่ช่องท้องขวาด้านบน ซึ่งพบประมาณร้อยละ 30-40 ของผู้ป่วย
o อาการดีซ่าน (Jaundice) ซึ่งพบประมาณร้อยละ 15 ของผู้ป่วย
• ตรวจเลือด
• ตรวจช่องท้องด้วยอัลตราซาวด์หรือซีทีสแกน
• การตรวจสแกนตับและทางเดินน้ำดี (Hepatobiliary iminodiacetic acid = HIDA)
• การส่องกล้องตรวจท่อน้ำดีและตับอ่อน (Endoscopic retrograde cholangiopancreatography = ERCP)
สำหรับการรักษานั้นมักจะรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อควบคุมอาการอักเสบในถุงน้ำดี หรือบางครั้งอาจจำเป็นต้องผ่าตัด โดยการรักษาที่โรงพยาบาลอาจประกอบด้วย
• การอดอาหาร (Fasting)
• การให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
• การให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ
• การให้ยาแก้ปวด
• การผ่าตัดด้วยวิธีต่างๆ เช่น
o Laparoscopic cholecystectomy
o Percutaneous drainage
o ERCP
o Endoscopic ultrasound-guided transmural cholecystostomy
o Endoscopic gallbladder drainage
แหล่งข้อมูล:
- Cholecystitis. https://emedicine.medscape.com/article/171886-overview [2018, April 19].
- Cholecystitis.https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cholecystitis/symptoms-causes/syc-20364867 [2018, April 19].