ตาแดงได้โดยไม่ต้องแต่งเติม (ตอนที่ 1)

ตาแดงได้โดยไม่ต้องแต่งเติม

กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเตือนว่า ช่วงหน้าฝนนี้ให้ระวังโรคตาแดงด้วย โดยข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่าในปี พ.ศ.2557 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 18 สิงหาคม ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้ว 115,255 ราย สูงเกือบเท่าปี พ.ศ.2555 ตลอดปีที่มีผู้ป่วย 118,882 ราย

ทั้งนี้ พบผู้ป่วยได้ทุกวัย โดยเกือบครึ่งเป็นเด็กเล็กและวัยเรียน เพราะโรคนี้ติดต่อกันง่ายทางมือ จึงแนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ส่วนคนที่ป่วยแล้วควรหยุดพักงาน หยุดเรียนอย่างน้อย 3 วัน และงดลงเล่นน้ำในสระ

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคตาแดงจากเชื้อไวรัสมักระบาดในช่วงหน้าฝน เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสและติดต่อกันง่ายมาก โดยเฉพาะตามโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก รวมทั้งในพื้นที่น้ำท่วม เนื่องจากมีปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาดและความสกปรกของน้ำที่ท่วมขัง

ด้านนายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีผู้ป่วยตาแดงไปรักษาที่โรงพยาบาลกันมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยโรคตาแดงจากไวรัสที่ระบาดอยู่ในขณะนี้มี 2 ลักษณะ คือ

  1. โรคตาแดงที่เกิดพร้อมกับไข้หวัด โดยจะมีอาการตัวร้อน คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูปวดบวมนำมาก่อน จากนั้นภายใน 2 วันจะมีอาการตาแดงตามมา บางรายอาจมีจุดเลือดออกที่ตาขาวด้วย
  2. โรคตาแดงที่เกิดรุนแรงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอาการอื่นๆ มาก่อน มักมีประวัติพบคนที่เป็นตาแดงหรือคนใกล้ชิดเป็นตาแดงมาก่อน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ ทำให้มีขี้ตามาก และเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว มักเริ่มเป็นที่ข้างใดข้างหนึ่งก่อน และลามไปเป็น 2 ข้างอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน บางรายอาจมีตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราวได้

นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า โรคนี้ติดต่อกันง่าย เนื่องจากเชื้อไวรัสจะอยู่ในสิ่งสกปรก น้ำตา ขี้ตาของผู้ที่เป็นตาแดง เชื้อไวรัสจะตายเมื่ออยู่ในที่แห้งภายใน 30 นาที โดยการติดต่อมี 3 ลักษณะ คือ

  1. จากมือที่ไปสัมผัสน้ำตา ขี้ตา ของผู้ป่วยตาแดงที่ติดอยู่ตามสิ่งของ พื้นผิวต่างๆ ขณะที่ยังไม่แห้ง เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะทำงาน แป้นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ราวรถเมล์ เป็นต้น แล้วมาสัมผัสที่ตา หรือใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น
  2. จากแมลงหวี่แมลงวัน ที่ตอมสิ่งสกปรกหรือตอมตาของผู้เป็นตาแดงแล้วไปตอมตาคนอื่นต่อ
  3. เด็กที่ลงเล่นในน้ำท่วมขังซึ่งน้ำจะมีความสกปรกสูง

นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ใช้การรักษาตามอาการ คือ ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง ถ้ามีขี้ตามากสีเหลืองหรือเขียวแสดงว่าติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย จะต้องใช้ยาหยอดตาปฏิชีวนะ ซึ่งหากใช้ยา 2 อย่างร่วมกันจะต้องเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 5 นาทีเพื่อไม่ให้ยาล้างกัน

แหล่งข้อมูล

1. เตือนระวังโรคตาแดง! เผยรอบ 8 ด.ผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 1.15 แสนราย http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099624 [2014, September 21].