ตรวจเลือดและปัสสาวะ ลดความเสี่ยง (ตอนที่ 10)

ตารางแสดงผลการตรวจปัสสาวะ (ต่อ)
คีโตน (Ketones) ปกติ: ไม่พบ
ผิดปกติ: การพบคีโตนในปัสสาวะอาจหมายถึงการเป็นโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ การได้รับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทต่ำมาก มีการอดอาหารหรือกินอาหารไม่ปกติ (เช่น โรคกลัวอ้วน (Anorexia nervosa หรือ Bulimia) โรคพิษสุราเรื้อรัง (Alcoholism) หรือได้รับสารพิษจากการดื่มไอโซโพรพานอล (Isopropanol) มักพบคีโตนในปัสสาวะเมื่อมีการอดอาหาร 18 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งอาจเกิดจากอาการป่วยทำให้ไม่สามารถกินหรืออาเจียนเป็นเวลาหลายวัน บางทีก็มีการพบคีโตนจำนวนเล็กน้อยในหญิงมีครรภ์ที่สุขภาพแข็งแรง
การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic analysis) ปกติ: พบเม็ดเลือดแดงหรือเม็ดเลือดขาวหรือคาส (Casts) น้อยมาก ไม่พบเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ ปาราสิต หรือ เซลล์สความัส (Squamous cells) อาจพบผลึก (Crystals) เล็กน้อย
ผิดปกติ: เม็ดเลือดแดงที่พบในปัสสาวะอาจมีสาเหตุมาจากการที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะได้รับบาดเจ็บ มีนิ่วในไต มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หน่วยไตอักเสบ มีเนื้องอกในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) เม็ดเลือดขาวที่พบในปัสสาวะอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ ไตอักเสบ เป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีการอักเสบที่ช่องคลอดหรือหนังหุ้มปลายองคชาติ การพบ Casts บางชนิด อาจหมายถึง มีการอักเสบหรือท่อไตถูกทำลาย เลือดไปเลี้ยงไตน้อยกว่าปกติ ได้รับสารโลหะ (เช่น ตะกั่วหรือปรอท) เป็นโรคหัวใจวาย หรือติดเชื้อแบคทีเรีย การพบผลึกในปริมาณที่มากหรือผลึกบางชนิด อาจหมายถึงการเป็นนิ่วในไต ไตถูกทำลาย หรือมีปัญหาเรื่องการเผาผลาญในร่างกาย ทั้งนี้ยาหรือโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบางชนิดสามารถทำให้เกิดผลึกในปัสสาวะได้มากขึ้น การพบเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ ปาราสิต ในปัสสาวะหมายถึง มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ การพบเซลล์สความัสในปัสสาวะ เม็ดเลือดแดงที่พบในปัสสาวะอาจมีสาเหตุมาจากการที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะได้รับบาดเจ็บ มีนิ่วในไต มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หน่วยไตอักเสบ มีเนื้องอกในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE) เม็ดเลือดขาวที่พบในปัสสาวะอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ ไตอักเสบ เป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีการอักเสบที่ช่องคลอดหรือหนังหุ้มปลายองคชาติ การพบ Casts บางชนิด อาจหมายถึง มีการอักเสบหรือท่อไตถูกทำลาย เลือดไปเลี้ยงไตน้อยกว่าปกติ ได้รับสารโลหะ (เช่น ตะกั่วหรือปรอท) เป็นโรคหัวใจวาย หรือติดเชื้อแบคทีเรีย การพบผลึกในปริมาณที่มากหรือผลึกบางชนิด อาจหมายถึงการเป็นนิ่วในไต ไตถูกทำลาย หรือมีปัญหาเรื่องการเผาผลาญในร่างกาย ทั้งนี้ยาหรือโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบางชนิดสามารถทำให้เกิดผลึกในปัสสาวะได้มากขึ้น การพบเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ ปาราสิต ในปัสสาวะหมายถึง มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ การพบเซลล์สความัสในปัสสาวะ หมายความว่า มีการเก็บปัสสาวะไม่บริสุทธิ์ แต่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการรักษา แพทย์อาจขอให้ทำการเก็บปัสสาวะใหม่

ทั้งนี้ มีหลายสาเหตุที่อาจไม่สามารถตรวจปัสสาวะได้หรือผลการตรวจอาจไม่ถูกต้องนักซึ่ง ได้แก่

  • ผู้หญิงอยู่ระหว่างช่วงมีประจำเดือน
  • มีการใช้ยา เช่น ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) ยา Erythromycin ยา Trimethoprim หรือมีการใช้วิตามินซี (Ascorbic acid) ในปริมาณที่สูงควบคู่กับยาปฏิชีวนะ เช่น ยา Tetracycline
  • มีการเอ็กซเรย์ด้วยการฉีดสารทึบรังสี (Contrast material) ใน 3 วันที่ผ่านมา
  • ไม่สามารถนำตัวอย่างปัสสาวะไปถึงห้องแล็บได้ภายใน 1 ชั่วโมง

แหล่งข้อมูล

  1. Information and Resources. http://www.webmd.com/a-to-z-guides/urine-test [2013, March 10].