ตดแล้วได้...ตดแล้วดี...ตดไปเลย (ตอนที่ 1)

  • โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
  • 19 พฤศจิกายน 2559
  • Tweet
ตดแล้วได้_ตดแล้วดี

โศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นขณะที่คณะแพทย์กำลังผ่าตัดมดลูกให้กับผู้ป่วยหญิงชาวญี่ปุ่นวัย 30 ปี ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งโตเกียว โดยขณะผ่าตัดผู้ป่วยได้ผายลมออกมา และเกิดการสันดาปกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ผ่าตัด ทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างฉับพลันท่วมร่างผู้ป่วยจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งช่วงขาและเอว

เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนปีนี้ แต่ทางโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการจากภายนอกขึ้นมาสอบสวนจนเปิดเผยผลในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ผลการสอบสวนระบุว่า ไม่มีวัสดุติดไฟอยู่ในห้องผ่าตัด และอุปกรณ์ทุกอย่างทำงานเป็นปกติ ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นจึงเกิดจาก ลมที่อยู่ในช่องท้องของผู้ป่วยเล็ดลอดออกมาในห้องผ่าตัดทำปฏิกิริยากับแสงเลเซอร์ จนลุกไหม้กับผ้าคลุมเตียงผ่าตัดและลุกท่วมร่างผู้ป่วย

ตด หรือ ผายลม (Fart) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติตามธรรมชาติ การตดเป็นระบายลมที่อยู่ในท้องออกมา โดยเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีก๊าซ 500-1500 มิลลิลิตร ที่ผ่านลำไส้ ซึ่งทำให้เกิดการตดได้ถึงวันละ 10-20 ครั้ง มีทั้งแบบเสียงดังหรือไม่มีเสียง แบบมีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่น

ขณะเมื่อเรากิน เราไม่ได้กลืนเพียงอาหารเท่านั้น เรายังได้กลืนเอาอากาศที่มีก๊าซอย่างไนโตรเจนและออกซิเจนเข้าไปด้วย โดยก๊าซเหล่านี้จะเข้าไปในระบบย่อยอาหาร ส่วนก๊าซอื่นอย่างไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน จะเกิดเมื่อร่างกายมีการย่อยหรือตอนที่อาหารได้แตกตัวในลำไส้ใหญ่ ก๊าซเหล่านี้ต้องการหาทางออก ดังนั้นเราจึงต้องตด

ตดเป็นสัญญานของร่างกายที่บอกว่า มีแบคทีเรียที่ดีอยู่ในลำไส้และร่างกายได้ทำหน้าที่เป็นปกติ ตดส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเหม็น โดยความเหม็นของกลิ่นมีตั้งแต่ระดับอ่อนไปจนระดับรุนแรง แต่บางทีก็ไม่มีกลิ่น (หากประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์เป็นส่วนใหญ่)

กลิ่นเหม็นของตดเกิดจากการที่มีซัลเฟด (Sulfates) ผสมอยู่ โดยเป็นผลเกิดจากการที่แบคทีเรียย่อยอาหารในกระเพาะ หรือกล่าวได้ว่า กลิ่นเหม็นเกิดขึ้นได้ 2 ทาง คือ

1. ก๊าซคงอยู่ในลำไส้เป็นระยะเวลานาน

2. กินอาหารที่มีธาตุกำมะถัน (Sulfur) สูง เช่น ถั่ว ผลไม้ บร็อคโคลี่ ไข่ นม เนย หัวหอม กระเทียม ผลไม้แห้ง และไวน์

การมีกลิ่นตดเล็กน้อยถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่น่าห่วง เพราะมีงานวิจัยบางฉบับได้แสดงว่า การตดช่วยทำให้คนมีอายุยืนขึ้น

นอกจากนี้งานวิจัยฉบับใหม่ที่ทำโดย Exeter University ในอังกฤษ และถูกเผยแพร่ในวารสาร Medicinal Chemistry Communications ก็ได้ระบุว่า การตดเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายมีสุขภาพดี ช่วยป้องกันไมโทคอนเดรียจากการถูกทำลาย (Mitochondrial damage) ได้ถึงร้อยละ 80 ซึ่งสามารถช่วยได้ในเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease)

บรรณานุกรม

1. “ตด” เป็นเหตุ ทำสาวญี่ปุ่นไฟไหม้ร่างขณะผ่าตัด. http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000108722 [2016, November 18].

2. What’s a fart ? http://kidshealth.org/en/kids/fart.html [2016, November 18].

3. Why Smelly Farts Are Healthy Signs And Can Benefit People Around Us. http://www.lifehack.org/400536/why-smelly-farts-are-healthy-signs-and-can-benefit-people-around-us [2016, November 18].

4. Can Smelly Farts Indicate That Something Is Medically Wrong? http://www.med-health.net/Smelly-Farts.html [2016, November 18].

5. Farts can fight strokes, heart attacks and dementia, scientists claim. http://www.mirror.co.uk/news/weird-news/farts-can-fight-strokes-heart-6793616 [2016, November 18].