ดื้อยาแอนติไบโอติค (ตอนที่ 3)

ดื้อยาแอนติไบโอติค

ยาปฏิชีวนะมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะมีการทำงานในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังต่อไปนี้

  1. ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Bactericidal) หรือ
  2. หยุดยั้งการแบ่งตัวของเชื้อแบคทีเรีย (Bacteriostatic)

ยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ในวงกว้าง (Broad-spectrum antibiotic) สามารถใช้รักษาการติดเชื้อได้หลายชนิด ส่วนปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ในวงแคบ (Narrow-spectrum antibiotic) สามารถใช้รักษาการติดเชื้อได้เพียงบางชนิด

แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะล่วงหน้าเพื่อการป้องกันการติดเชื้อ (Prophylactic) เช่น ก่อนการผ่าตัดลำไส้และผ่าตัดกระดูก

โดยการใช้ยาปฏิชีวนะสามารถทำได้หลายวิธี คือ

  • ชนิดกิน (Oral antibiotics) – ในรูปของยาเม็ด แค็ปซูล หรือยาน้ำ เพื่อรักษาอาการอย่างอ่อนไปจนถึงอาการปานกลาง
  • ชนิดทา (Topical antibiotics) – ในรูปของครีม โลชั่น สเปรย์ หรือยาหยอด (Drops) เพื่อรักษาอาการติดเชื้อที่ผิวหนัง
  • ชนิดฉีด (Injections of antibiotics) – ในรูปของยาฉีดเข้าเส้นเลือดหรือกล้ามเนื้อ ซึ่งมักจะใช้ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อรุนแรง

ทั้งนี้ การใช้ยาปฏิชีวนะเหล่านี้ต้องใช้จนครบคอร์สหรือครบกำหนดของการใช้ยา เพราะการหยุดยาโดยไม่ครบคอร์ส จะทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาได้

กรณีที่ลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้เวลาของการกินยาครั้งต่อไป ก็ให้ข้ามไปกินยาในเวลาครั้งต่อไป ห้ามกินยาชดเชยเป็น 2 เท่า ทั้งนี้เพราะการกินยา 2 ครั้งในเวลาที่ใกล้กันอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง (Side effects) ได้ เช่น ปวดในช่องท้อง ท้องเสีย หรือรู้สึกไม่สบาย

ยาปฏิชีวนะมีมากมายหลายร้อยชนิด แต่ที่นิยมใช้กันแบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่

  • กลุ่มยาเพนนิซลิน (Penicillin) – ที่ใช้กันทั่วไปเพื่อรักษาอาการติดเชื้อหลายอย่าง เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง (Skin infections) การติดเชื้อที่ช่องอก (Chest infections) การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infections)
  • กลุ่มยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporins) – ที่ใช้รักษาการติดเชื้อร้ายแรงอย่าง ภาวะโลหิตเป็นพิษ (Septicaemia) และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
  • ยากลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycosides) – ที่ใช้ในกรณีรุนแรง เช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ ทั้งนี้เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงซึ่งรวมถึง การสูญเสียการได้ยิน ไตถูกทำลาย และเนื่องจากยากลุ่มนี้สามารถแตกตัวในระบบการย่อยได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องให้ยาด้วยการฉีดหรือการหยอด เช่น ยาหยอดตา ยาหยอดหู
  • ยากลุ่มเตตราซัยคลีน (Tetracyclines) – มักใช้ในการรักษาสิวปานกลางถึงรุนแรง และโรคสิวหน้าแดง (Rosacea)
  • ยากลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolides) – ใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อที่ปอดและช่องอก หรือใช้ในคนที่แพ้เพนนิซิลิน (Penicillin allergy) คนที่ดื้อยาเพนนิซิลิน (Penicillin-resistant strains of bacteria)
  • ยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolones) – เป็นยาที่ออกฤทธิ์ในวงกว้าง ใช้รักษาการติดเชื้อได้หลายอย่าง

แหล่งข้อมูล

1. Antibiotics. http://www.nhs.uk/conditions/Antibiotics-penicillins/Pages/Introduction.aspx[2015, December 8].

2. Antibiotics: How Do Antibiotics Work? http://www.medicalnewstoday.com/articles/10278.php[2015, December 8].