ซีสต์ในรังไข่ (ตอนที่ 2)

ซีสต์ในรังไข่

ซีสต์ (Cysts) เป็นถุงน้ำที่ก่อตัวในรังไข่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของคนในวัยที่มีบุตรได้ (Childbearing years) ซีสต์มีหลายชนิดแตกต่างกันไป ที่พบมากที่สุดได้แก่ ฟังชันนัลซีสต์ (Functional cyst) ซึ่งเป็นซีสต์ที่สามารถยุบหายไปได้เองในระยะเวลา 1- 3 เดือน เมื่ออยู่ในสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโต สำหรับซีสต์ชนิดอื่น ได้แก่

  • Polycystic ovaries หรือ โรครังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (Polycystic ovary syndrome = PCOS) ชาวบ้านทั่วไปอาจเรียกว่า มีซีสต์ในรังไข่ โรคนี้พบได้ค่อนข้างบ่อย ประมาณหนึ่งในสิบของสตรีวัยเจริญพันธุ์จนถึงอายุ 45 ปี ป่วยด้วยโรคนี้
  • Endometriomas หรือ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นเยื่อบุมดลูกที่เป็นเลือดประจำเดือนเก่าๆ ซึ่งไหลย้อนกลับผ่านท่อนำไข่ ไปฝังอยู่ในส่วนต่างๆ เช่น รังไข่ มดลูก และนอกมดลูก สร้างความเจ็บปวดและทำให้มีบุตรยาก
  • Cystadenomas ซีสต์ชนิดนี้จะเป็นถุงน้ำอยู่บนรังไข่
  • Dermoid cyst เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่จัดวางอยู่ผิดตำแหน่งตั้งแต่พัฒนาการขั้นแรกของทารกในครรภ์ ซีสต์ชนิดนี้ มีทั้งส่วนที่เป็นถุงน้ำ และส่วนที่เป็นไขมัน อาจมีเส้นผม มีผิวหนัง ฟัน กระดูก เข้าไปอยู่ในก้อนซีสต์

ทั้งนี้ กรณีของ Cystadenomas และ Dermoid cyst สามารถโตขึ้นจนทำให้รังไข่เคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ผิดไป หรือที่เรียกว่า รังไข่บิดขั้ว (Ovarian torsion) ซึ่งจะทำให้มีโอกาสปวดมากขึ้น

การกินยากระตุ้นการตกไข่ (Fertility drugs) ก็สามารถเป็นสาเหตุให้ซีสต์จำนวนมากเกิดขึ้นในรังไข่ ที่เรียกว่า Ovarian hyperstimulation syndrome ซึ่งซีสต์มักจะยุบไปเองหลังประจำเดือนหรือหลังการตั้งครรภ์

ซีสต์ที่รังไข่มักจะไม่แสดงอาการ แต่หากอาการปรากฏจะรู้สึกปวดหรือประจำเดือนมาช้า ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในกรณีที่

  • ซีสต์มีขนาดใหญ่
  • มีเลือดออก
  • ซีสต์แตก
  • ขัดขวางการไหลของเลือดไปยังรังไข่
  • ถูกกระเทือนขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีการบิดตัวของท่อนำไข่ (Fallopian tube)

นอกจากนี้อาการของซีสต์ในรังไข่ยังก่อให้เกิดอาการ

  • ท้องอืดหรือท้องบวม
  • ปวดระหว่างที่มีการเคลื่อนตัวของลำไส้
  • ปวดท้องน้อย (Pelvis) ก่อนมีประจำเดือนหรือเริ่มมีวันแรกๆ
  • ปวดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
  • ปวดท้องน้อยแบบคงที่ หรือปวดตื้อๆ /ปวดเสียด (Dull aching)
  • ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน โดยส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณของการที่รังไข่บิดตัว หรือซีสต์แตกมีเลือดออก

แหล่งข้อมูล

1. Ovarian Cysts and Tumors. http://www.webmd.com/women/guide/ovarian-cysts [2014, July 24].
2. Ovarian cysts. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/001504.htm [2014, July 24].
3. Ovarian cysts facts. http://www.medicinenet.com/ovarian_cysts/article.htm [2014, July 24].
4. Ovarian cysts. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/ovarian-cysts/basics/definition/con-20019937 [2014, July 24].