จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน - ภาคที่ 2
จิตวิทยาวัยรุ่น ตอนที่ 71 : ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ (2)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 1 มีนาคม 2558
- Tweet
วัยรุ่นที่ปรับตัวได้ดีที่สุด มักเป็นผู้ที่ดำรงความผูกพัน (Attachment) อย่างใกล้ชิดกับพ่อแม่ แม้จะได้รับอิสรภาพ (Autonomy) และเตรียมพร้อมที่จะแยกตัวออกไป [เหมือนนกที่เพิ่งบินออกจากรังเป็นครั้งแรกในชีวิต] ดังนั้น สิ่งที่พึงปรารถนามากที่สุดคือ อิสรภาพกับความผูกพัน และการพึ่งพาตนเอง (Independence) กับ การพึ่งพาระหว่างกัน (Interdependence)
วัยรุ่นมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็นอิสระพอควร ยึดมั่นในความสำเร็จ (Achievement-oriented) และปรับตัวได้ดี ถ้าพ่อแม่รับรู้และยอมรับความจำเป็น [ของวัยรุ่น] ที่ต้องการอิสรภาพ และค่อยๆ คลายการครอบงำ มีผลการวิจัยจำนวนมากที่แสดงว่า พ่อแม่ควรจะเข้มงวดกับกฎเกณฑ์ที่ชอบด้วยเหตุผลเท่านั้นและอย่างสม่ำเสมอ
ในขณะเดียวกัน พ่อแม่ก็ควรให้ลูกวัยรุ่นมีส่วนร่วมในการถกเถียงและตัดสินใจในประเด็นของการปกครองตนเอง (Self-governance) การเฝ้าติดตาม (Monitor) การออกจากบ้าน-กลับเข้าบ้าน การควบคุมทางจิตวิทยา และการดำรงความอบอุ่นและการสนับสนุน แม้ในท่ามกลางความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
วัยรุ่นที่ได้รับอิสรภาพมากเกินไป มักปรับตัวอย่างลำบากกว่าวัยรุ่นที่พ่อแม่ควบคุมอย่างเข้มงวด นักวิจัยค้นพบว่า พ่อแม่ที่สนับสนุนอิสรภาพ ได้ประสิทธิผลมากที่สุด ไม่ใช่เมื่อส่งเสริมให้ลูกวัยรุ่นตัดสินใจด้วยตนเอง แต่เมื่อเสนอทางเลือกหลากหลาย หลังจากช่วยลูกวัยรุ่นสำรวจ แล้วค่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตนเอง ตามแนวทางของความสนใจ จุดมุ่งหมาย และค่านิยมของเขา
วิธีการดังกล่าว เรียกว่า “การส่งเสริมการทำงานของการตัดสินใจ” (Promotion of Volitional Functioning : PVF) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่พ่อแม่แนะนำหรือ “สนับสนุน” (Scaffold) [เหมือน “นั่งร้าน” ที่ค้ำจุนตัวอาคาร] การให้วัยรุ่นตัดสินใจเอง (แทนการบังคับทางออกของประเด็น) หรือการเลิกการควบคุม ย่อมทำให้ลูกวัยรุ่นได้ประสบการณ์ความรู้สึกของการกำหนดตนเอง (Self-determination) ในการแก้ปัญหาส่วนตัว
การยอมรับของพ่อแม่และรูปแบบที่ยืดหยุ่นได้ของการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป เป็นวิธีการของพ่อแม่ทรงอิทธิพล (Authoritative) [เปรียบเทียบวิธีการของพ่อแม่เผด็จการ (Authoritarian)] ซึ่งมีความสัมพันธ์กับผลลัพธ์ของพัฒนาการที่ดี (Healthy) ในหลากหลายบริบท
วัยรุ่นที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ มักแปลผล (Interpret) คำถามของพ่อแม่ในเรื่องกิจกรรมของเขา ไปในทางที่เป็นสัญญาณของความห่วงใย (Care) ซึ่งทำให้พ่อแม่ไม่ต้องคอยรบกวนให้รำคาญใจ (Badger) หรือคอยสอดแนม (Snoop) เพื่อสืบทราบว่า ลูกวัยรุ่นกำลังทำอะไรอยู่?
อย่างไรก็ตาม ถ้าพ่อแม่ต่อต้านการต่อสู้ของวัยรุ่น เพื่อเรียกร้องอิสรภาพ และการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป หรือตามใจ (Permissive) เกินไป โดยมิได้ให้วัยรุ่นมีส่วนร่วม วัยรุ่นก็มักจะประสบความทุกข์โศก (Distress) และทำตัวเป็นกบฏ ไม่ค่อยยอมแจ้งบอกกิจกรรมที่ตนเองทำ และในที่สุดลงมักเอยด้วยการก่อปัญหาพฤติกรรม
แหล่งข้อมูล
- Shaffer David R. and Katherine Kipp (2010). Developmental Psychology : Childhood & Adolescence (8th Ed). Belmont, CA: Wadsworth-Cengage Learning.
- Cords - http://www.alchemyrealm.com/cords.htm [2015, February 28].