จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน - ภาคที่ 4 จิตวิทยาผู้สูงวัย ตอนที่ 29: ต้นทุนของอายุยืน (3)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 4 พฤศจิกายน 2558
- Tweet
อีกวิธีหนึ่ง คือการลดเงินบำนาญใหม่ให้น้อยลงกว่าเงินบำนาญเก่า แม้จะเป็นทางออกที่ดี แต่จะมีผลกระทบเต็มที่ในหลายทศวรรษต่อมา เมื่อคนทำงานปัจจุบันถึงอายุเกษียณ วิธีสุดท้ายก็คือการเพิ่มจำนวนเงินสมทบ (Contribution) เข้าในกองทุน แต่ก็เป็นการขอให้คนทำงานจ่ายเงินเพิ่ม ในช่วงเวลาที่ค่าจ้างถูกควบคุม และราคาสินค้าก็เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ระเบิดเวลาประชากร (Demographic time bomb) และวิกฤตบำนาญ (Pension crisis) กำลังเป็นปัญหาร้ายแรง แต่ต้องเข้าใจในภาพรวม (Perspective) ด้วย เริ่มต้นที่ต้นทุนของการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ อาจแสดงตัวเลขทางบัญชีที่เกินความจริง (Exaggerated) และต้นทุนที่แท้จริง อาจต่ำกว่าที่เข้าใจกันอย่างมีนัยสำคัญ
ประการที่ 2 สถิติที่เราพบเห็น มักอ้างอิงจากประเทศอุตสาหกรรม ภาพที่สะท้อนความจริง น่าจะเป็นตัวเลขจากประเทศที่กำลังพัฒนาในปี พ.ศ. 2443 ซึ่งมีอัตราการตายของทารก (Infant mortality) ที่เหมาะสมกว่าอัตราการตายที่ต่ำเกินไปของประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO)
นอกจากนี้ อัตราผู้สูงอายุที่พึ่งพาผู้อื่น (Old age dependency rate) คาดว่าจะแตกต่างอย่างมาก (Enormously) ในแต่ละประเทศ โดยที่ในปี พ.ศ. 2593 อัตราส่วนนี้ คาดว่าจะเป็น 1 ในประเทศญี่ปุ่น และ 3 ในสหรัฐอเมริกา เปรียบเทียบกับ 19 ในประเทศไนเจอร์ (Niger) ซึ่งอยู่ขั้วต่ำสุด ตามข้อมูลประชากรศาสตร์ของสหประชาชาติ (United Nations)
อย่างไรก็ตาม คงต้องตอกย้ำ (Reiterating) คำเตือนในเรื่องอายุยืน (Longevity) ว่า มีผลกระทบในเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น ตามมาด้วยข้อสมมุติฐานที่ผิดว่า บำนาญเป็นสิ่งที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน (Inalienable) อันที่จริง บำนาญเป็นประดิษฐกรรมที่เกิดขึ้นไม่นานในประวัติศาสตร์
บำนาญของรัฐกำเนิดขึ้น เพื่อจัดแจงปัจจัยขั้นพื้นฐาน (Basic sustenance) ให้คนทำงานในช่วงสุดท้ายของปีทำงาน โดยมิได้ตั้งใจให้เป็นกองทุนสำราญ (Leisure) สำหรับสัดส่วนสำคัญของประชากรเป็นเวลา 2 ทศวรรษขึ้นไป เมื่ออายุคาด (Life expectancy) ยืนยาวขึ้น การเพิ่มขึ้นของประชากรบำนาญ (Pensionable age) เป็นสิ่งที่ชอบด้วยเหตุผล
ประการที่ 2 ในสถานการณ์ใดๆ ลักษณะที่ไร้กฎเกณฑ์ (Arbitrary nature) ของส่วนประกอบของผู้รับบำนาญ (Pensionable age) จะเห็นตัวอย่างได้จากปรับอายุเกษียณในฝรั่งเศสให้เพิ่มขึ้นเป็น 62 ปี หรือ 3 ปีต่ำกว่าอายุเกษียณปัจจุบันของอังกฤษ
ความโกรธ (Wrath) ของฝรั่งเศส ถูกกำกับไว้ในสิ่งที่เขามองเห็นว่าถูกต้อง แต่ในอังกฤษ จะถูกมองว่าเป็นการเกษียณอายุก่อนวัย (Early retirement) ดังนั้นสิ่งที่ประกอบเป็น “อายุที่ถูกต้อง” ซึ่งสมควรเกษียณ เหมือนแนวความคิดเรื่องผู้สูงวัย เป็นสิ่งที่ไร้กฎเกณฑ์
แหล่งข้อมูล
1.Stuart-Hamilton, Ian. (2012). The Psychology of Ageing (5th Ed). London, UK: Jessica Kingsley Publishers.
2.The Rising Cost of Living Longer - http://kff.org/medicare/report/the-rising-cost-of-living-longer-analysis-of-medicare-spending-by-age-for-beneficiaries-in-traditional-medicare/ [2015, November 3].