จะสูง จะต่ำ ก็ไม่ดี (ตอนที่ 4)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 29 พฤศจิกายน 2558
- Tweet
การปล่อยให้ความดันโลหิตสูงโดยไม่ทำการควบคุม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ดังนี้
- ภาวะหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง (Strokes)
- หลอดเลือดโป่งพอง (Aneurysms)
- หลอดเลือดที่ไตตีบ ทำให้อวัยวะทำงานไม่เต็มที่
- หลอดเลือดที่ตาตีบหรือแตก ทำให้ตาบอด
- อ้วนลงพุง (Metabolic syndrome)
- ความจำแย่ลง
ทั้งนี้ การควบคุมความดันโลหิตอาจทำได้ด้วยการเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต (Lifestyle) เช่น
- กินอาหารที่มีประโยชน์มีรสเค็มน้อยลง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลิกสูบบุหรี่
- จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
- ลดความเครียด
- ฝึกผ่อนคลายและหายใจลึกๆ
นอกจากนี้อาจใช้ยาที่ใช้ในการลดความดันโลหิต ซึ่งได้แก่
- ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) เพื่อช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย
- ยากั้นเบต้า (Beta-blocker) เพื่อลดการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด
- ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม Angiotensin-converting enzyme (ACE) inhibitors
- ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม Angiotensin II receptor blockers (ARBs)
- ยาปิดกั้นแคลเซียม (Calcium channel blockers) เพื่อปิดกลั้นการไหลเข้าของเกลือแคลเซียมทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวลดลง
- ยากลุ่ม Renin inhibitors
สำหรับความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) เป็นภาวะที่รักษาให้หายได้หากรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง โดยนักกีฬาและคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะมีความดันโลหิตต่ำและอัตราการเต้นของหัวใจที่ช้ากว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
อย่างไรก็ดี การที่ความดันตกอย่างรวดเร็วอาจเป็นอันตราย เช่น ความดันที่ตกจาก 110 เหลือ 90 ในทันทีทันใดจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาจทำให้เวียนศีรษะและหน้ามืดเป็นลม หรือการเสียเลือดมาก การติดเชื้อ หรืออาการแพ้อย่างรุนแรง ก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้
แหล่งข้อมูล
1. High blood pressure (hypertension). http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/high-blood-pressure/basics/definition/con-20019580[2015, November 28].
2. Low blood pressure (hypotension). http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/low-blood-pressure/basics/definition/con-20032298 [2015, November 28].