งีบกลางวันเสี่ยงเบาหวาน (ตอนที่ 5)

งีบกลางวันเสี่ยงเบาหวาน

1. การอดนอนทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

จากผลงานวิจัยหนึ่งพบว่า การนอนเพียงคืนละ 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 6 คืน จะมีผลต่อการวัดความทนทานน้ำตาลกลูโคส (Glucose tolerance) ที่ลดลงถึงร้อยละ 40 ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน เพราะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากการขาดอินซูลิน

2. การนอนมีความสัมพันธ์กับภาวะหดหู่ซึมเศร้า (Depression) และ ภาวะวิตกกังวล (Anxiety)

จากงานวิจัยที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มคนเกือบ 19,000 คน พบว่า การนอนไม่หลับมีผลต่อการเกิดภาวะหดหู่ซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 5 เท่า โดยนักวิจัยเชื่อว่า การอดนอนบ่อยๆ สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองและสารสื่อประสาท (Neurochemicals) ที่มีผลกระทบต่ออารมณ์และความคิด

3. การนอนหลับที่ดีจะช่วยให้มีน้ำหนักตัวที่ดี

จากงานวิจัยหลายปีพบว่า การอดนอนเป็นสาเหตุให้มีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น ยิ่งอดนอนเท่าใดก็ยิ่งอ้วนขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้เพราะคนที่อดนอนมักรู้สึกหิวและกินมากกว่าคนปกติ นอกจากนี้อัตราการเผ่าผลาญ (Metabolic rate) ก็น้อยลง ซึ่งมีผลต่อการสร้างอินซูลิน

4. การอดนอนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง

นักวิจัยคาดว่า การขัดขวางนาฬิกาชีวิต (Circadian rhythm) จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง เพราะนาฬิกาชีวิตมีผลกระทบต่อการทำงานทางชีวภาพ ยกตัวอย่างเช่น ทฤษฏีที่กล่าวถึง การที่สารเมลาโทนิน (Melatonin) หยุดหลั่งในตอนกลางคืนเนื่องจากมีแสงมารบกวนการนอน

และจากงานวิจัยพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการนอนไม่พอกับความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โดยการเปรียบเทียบข้อมูลของ The International Journal of Cancer ระหว่างปี พ.ศ.2548 – 2551 ในผู้หญิง 1,200 คน ที่เป็นมะเร็งเต้านม กับผู้หญิง 1,300 คน ที่ไม่เป็นมะเร็งเต้านม

พบว่าผู้หญิงที่ทำงานเป็นกะ (Shift work) จะมีโอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้หญิงที่ทำงานเวลาปกติถึง 30 เท่า โดยผู้หญิงที่ทำงานเป็นกะเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี หรืออย่างน้อยทำงานกะดึก 3 คืนต่อสัปดาห์ จะมีความเสี่ยงสูง

เช่นเดียวกัน ผู้ชายที่ทำงานเป็นกะ จะมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย

นอกจากนี้การทำงานเป็นกะยังมีผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เป็นโรคกระเพาะ (Peptic ulcer disease)

แหล่งข้อมูล

1. What Is Excessive Sleepiness.https://sleepfoundation.org/excessivesleepiness/excessive-sleepiness-home [2015, November 10].