คุยกับหมอสมศักดิ์ ตอน: การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (electroencephalography : EEG)

การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองหรือ EEG นั้นเป็นการตรวจการทำหน้าที่ของสมองอย่างหนึ่งว่ามีความผิดปกติหรือไม่ มีข้อบ่งชี้ในการตรวจ เช่น

  1. กรณีสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการผิดปกติเป็นโรคลมชักหรือไม่
  2. กรณีมีความผิดปกติทางจิตเวชบางชนิด
  3. กรณีผู้ป่วยทีระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ สงสัยว่าจะเกิดจากสาเหตุความผิดปกติทางเมตะบอลิก เช่น ตับวาย ไตวาย (metabolic encephalopathy)
  4. กรณีการรักษาผู้ป่วยชักต่อเนื่อง (status epilepticus)
  5. กรณีผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงและแพทย์ให้การรักษาด้วยการให้ยาสลบขนาดสูงเพื่อกดสมองหรือทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำลง เพื่อรักษาสภาพสมองให้ดี

ผู้ป่วยโรคลมชักส่วนใหญ่แพทย์ก็จะส่งตรวจ EEG เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคลมชัก อย่างไรก็ตาม การตรวจ EEG มีข้อจำกัด คือ เครื่องมือดังกล่าวมีน้อยมากในสถานพยาบาลต่างๆ ทำให้แพทย์ไม่สามารถส่งตรวจได้ หรือการแปลผลก็ยุ่งยาก ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแปลผลการตรวจ ความร่วมมือของผู้ป่วยในระหว่างการตรวจต้องนอนนิ่งๆไม่ควรขยับไปมา หรือเคี้ยวปาก ขยับหน้า เป็นต้น ด้วยข้อจำกัดข้างต้นของการตรวจ EEG จึงนำมาซึ่งความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องหลายกรณี ดังนี้

  1. การที่แพทย์ไม่ได้ส่งตรวจนั้น ไม่ได้หมายความว่าแพทย์ไม่ทำการรักษาที่ได้มาตรฐาน แต่อาจเป็นเพราะข้อจำกัดข้างต้น
  2. การที่ผลตรวจออกมาว่ามีความผิดปกติเข้าได้กับอาการชักนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นโรคลมชัก เพราะการตรวจนั้นอาจให้ผลบวกปลอมได้ (false positive)
  3. การที่ผลตรวจออกมาว่าไม่พบความผิดปกติของการชัก ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้เป็นโรคลมชัก เพราะการตรวจนั้นอาจให้ผลลบปลอมได้ (false negative)
  4. การตรวจ EEG นั้นไม่มีอันตรายหรือการเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหารก่อนการตรวจ ซึ่งผู้ป่วยหรือญาติไม่เข้าใจ พอแพทย์บอกว่าต้องตรวจ EEG หรือคลื่นไฟฟ้าสมอง ก็เกิดความเข้าใจผิด ความกลัวว่าจะก่อให้เกิดความเจ็บปวด หรืออันตรายได้ จึงไม่มาตรวจตามที่แพทย์นัด
  5. คนปกติดีไม่ควรตรวจ EEG เพราะไม่ได้บอกข้อมูลอะไรเพิ่ม ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นจากการที่ผลิตภัณฑ์อาหารบำรุงร่างกายยี่ห้อหนึ่งโฆษณาว่าการดื่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะทำให้สมองมีการพัฒนาที่ดี โดยตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง ดังนั้นเมื่อดื่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแรก ก็จะมาพบแพทย์เพื่อขอตรวจ EEG จริงแล้วการประเมินว่าสมองมีการพัฒนาที่ดีหรือไม่นั้น การตรวจ EEG ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้จริง แต่ไม่ได้มีความแม่นยำหรือแปลผลได้โดยตรง ต้องอาศัยข้อมูลการตรวจประเมินอื่นๆเพิ่มเติมร่วมด้วย หรือคนที่ปกติดีแต่เริ่มมีความกังวลว่าสมองจะทำงานผิดปกติหรือไม่ ก็มาขอให้แพทย์ส่งตรวจนั้นก็ยิ่งไม่มีความจำเป็นใดๆ และการตรวจนั้นก็มีข้อจำกัดด้านการแปลผลอย่างมาก

ดังนั้นการส่งตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองนั้นมีความจำเป็นในบางกรณีเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคลมชัก และการรักษาโรคลมชักนั้น ผู้ป่วยทุกคนก็ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองทุกคน เพราะสามารถให้การรักษาจากประวัติและอาการผิดปกติได้ แพทย์จะส่งตรวจเฉพาะในรายที่ไม่มั่นใจในการวินิจฉัยเท่านั้น