คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน: การรักษาโรคมะเร็งด้วยคลื่นเสียงความเข้มสูง

คลื่นเสียงที่คนเราสามารถได้ยิน(Audiofrequency)จะมีความถี่อยู่ที่ประมาณ 20-20,000 Hz ซึ่งถ้าสูงกว่านี้ เราจะไม่ไดยิน เรียกว่า อัลตราซาวด์ (Ultrasound) โดยเป็นคลื่นเสียงที่อยู่ในช่วงสูงกว่า 20 KHz โดยสูงไปจนถึงระดับเป็น GHz

ทางการแพทย์นำอัลตราซาวด์มาใช้ทั้งในการวินิจฉัยโรคโดยใช้หลักการที่เป็นคลื่นเสียงที่สะท้อนกลับได้เมื่อกระทบกับวัตถุ ซึ่งสามารถนำมาแปลงเป็นภาพให้แพทย์ตรวจพบพยาธิสภาพในเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆได้ และในทางการรักษา โดยนำความร้อนที่เกิดจากคลื่นอัลตราซาวด์มาใช้ เช่น ในทางกายภาพบำบัด

ในด้านการรักษาโรคมะเร็ง โดยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า นักวิทยาศาสตร์สามารถผลิตอัลตราซาวด์ให้มีความเข็มสูง ให้ความร้อนที่สูงมากจนสามารถฆ่าเซลล์/เนื้อเยื่อให้ตายได้ และยังทำให้เกิดเป็นลำแสงที่แพทย์สามารถควบคุมทิศทางได้ ที่เรียกว่า High -intensity focused ultrasoundย่อว่า HIFU/ไฮฟู ซึ่งทำให้การทำลายก้อนเนื้อมีประสิทธิภาพสูงขึ้น (เซลล์ตายมากขึ้น) และลดผลข้างเคียง/ผลกระทบต่อเนื้อเยื่อปกติใกล้เคียงลง จึงเป็นเป้าหมายที่จะใช้ทดแทนการผ่าตัด และรังสีรักษา ที่มีผลข้างเคียงสูงกว่าทั้งนี้ไฮฟูสามารถใช้รักษาโรคอื่นๆบางโรคได้ เช่น โรคจากมีการทำงานของสมอง หรือของหัวใจผิดปกติ แต่ในที่นี้จะคุยถึงเฉพาะเรื่องของไฮฟูในการรักษามะเร็งเท่านั้น

อนึ่ง การรักษาควบคุมโรคมะเร็งของไฮฟู คือ การทำให้เซลล์/เนื้อมะเร็งตายจากความร้อนสูง ที่ทำให้เซลล์ตายในลักษณะการตายเฉพาะส่วน (Necrosis) หลังจากนั้นร่างกายจะกำจัดเซลล์ที่ตายออกจากร่างกาย/อวัยวะนั้นๆ และเกิดเป็นพังผืดขึ้นมาชดเชยแทนที โดยเครื่องมือของไฮฟู มีทั้งลักษณะที่เป็นเข็มยาว (Probe) ที่ใช้ฝังหรือสอดใส่ในก้อนมะเร็ง หรือเป็นเครื่องลักษณะคล้ายเครื่องฉายรังสีรักษาชนิด 3 มิติ เช่น เครื่องที่เรียกว่า เครื่อง Haifuที่เรียกตามชื่อบริษัทในประเทศจีนที่ผลิตเครื่องมือนี้ ทั้งนี้ การรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคนิคนี้ มีกำเนิดจากประเทศจีน

ข้อบ่งชี้ของการรักษาโรคมะเร็งด้วยไฮฟู ได้แก่ มะเร็งต้องมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อชัดเจน ขนาดและรูปร่างอย่างไรก็ได้, ตำแหน่งไม่อยู่ติดกับหลอดเลือด,เป็นมะเร็งที่ถ้าผ่าตัด อาจต้องตัดทั้งอวัยวะ,เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่อาจมีผลข้างเคียงสูง,และ/หรือ เป็นมะเร็งชนิดที่เซลล์มะเร็งดื้อต่อรังสีรักษาและ/หรือยาเคมีบำบัด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งไต มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระดูก มะเร็งเต้านม

ข้อห้าม คือ ก้อนเนื้อที่อยู่ติดกับหลอดเลือด เพราะอาจทำให้หลอดเลือดทะลุ เลือดออกมากจนอาจเสียชีวิตได้

ข้อจำกัด คือมะเร็งที่มีอากาศอยู่ในอวัยวะ เพราะอากาศจะกระจายความร้อนได้ไม่ดีส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะที่เป็นมะเร็งและอวัยวะข้างเคียงสูง เช่น การทะลุของอวัยวะ ตำแหน่งดังกล่าว เช่น ปอด และทางเดินอาหาร นอกจากนั้นคือ สมอง เพราะคลื่นเสียงผ่านสมองได้ไม่ดี

ประโยชน์ของการรักษาวิธีนี้ คือ ผลข้างเคียงน้อยกว่าการผ่าตัดใหญ่มาก ไม่สูญเสียอวัยวะ เสียเลือดน้อยกว่าการผ่าตัดใหญ่ ไม่มีรังสีเหมือนรังสีรักษาจึงเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่ารังสีรักษาและสามารถรักษาซ้ำๆได้หลายครั้ง

ผลข้างเคียงหลังการรักษา คือ อาการปวดแผลที่ผิวหนัง และที่ตำแหน่งรักษา อาจมีไข้ได้ แผลอาจติดเชื้อ อาจมีเลือดออกจากแผลได้ และอาจมีอวัยวะข้างเคียงทะลุ ส่วนผลข้างเคียงระยะยาว ยังไม่ทราบ เพราะเป็นการรักษาที่ยังอยู่ในการศึกษาวิจัย แต่เท่าที่มีรายงาน ยังไม่พบผลข้างเคียงระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การใช้ไฮฟู ในการรักษามะเร็ง ยังจัดอยู่ในขั้นตอนของการการศึกษาวิจัย และมักจะเลือกใช้กรณีที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทย มีบางโรงพยาบาลเท่านั้นที่เริ่มให้การรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคนิคนี้

แหล่งข้อมูล

  1. http://en.wikipedia.org/wiki/High-intensity_focused_ultrasound [2014,March19].
  2. http://en.wikipedia.org/wiki/Audio_frequency [2014,March19].
  3. http://en.wikipedia.org/wiki/High-intensity_focused_ultrasound [2014,March19].