คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน: น้ำแร่รังสีไอโอดีนตอน1 :ผลข้างเคียงจากการกินน้ำแร่รังสีรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์

โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ โดยทั่วไปประมาณ 90-80% เป็นเซลล์มะเร็งชนิดตอบสนองต่อการรักษาด้วยการดื่มน้ำแร่รังสีไอโอดีน/อาร์เอไอ (RAI, radioactive iodine)ตามหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ คือ เป็นเซลล์มะเร็งชนิดที่เรียกว่า differentiated thyroid carcinoma โดยเซลล์มะเร็งชนิดนี้จะจับและกินไอโอดีนเข้าไปเก็บไว้ในตัวเซลล์ ดังนั้นเมื่อเรานำไอโอดีนมาเปลี่ยนให้มีคุณสมบัติเป็นแร่รังสี คือ สามารถให้รังสีที่เรียกว่า รังสีบีตา(Beta ray) ที่มีคุณสมบัติค่าเซลล์มะเร็งได้ โดยรังสีชนิดนี้จะจำกัดอยู่เฉพาะเซลล์ต่อมไทรอยด์ ดังนั้นเซลล์มะเร็งจึงถูกฆ่าโดยมีผลกระทบน้อยที่สุดต่ออวัยวะอื่นๆที่อยู่ข้างเคียงต่อมไทรอยด์

จากการศึกษาพบว่า การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ มักมีเซลล์มะเร็งฯหลงเหลืออยู่เสมอ ซึ่งจะส่งผลให้โรคกลับคืนเป็นซ้ำ ลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง และ/หรือแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด และกระดูก แต่การให้น้ำแร่รังสีไอโอดีน(น้ำแร่รังสีฯ) ตามหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ จะช่วยลดโอกาสเหล่านี้ลง ซึ่งส่งผลให้โอกาสหายขาดจากโรคสูงถึง 80-95%

หลังจากผู้ป่วยดื่มน้ำแร่รังสีฯ ซึ่งเหมือนการดื่มน้ำธรรมดา ขนาดประมาณ 2-5 ซีซี (cubic centimeter) แร่รังสีฯเกือบทั้งหมดจะถูกจับกินโดยเซลล์ต่อมไทรอยด์ ที่เหลือส่วนน้อยจะถูกจับกินที่เซลล์ของต่อมน้ำลาย (ส่งผลให้มีอาการปาก คอ แห้ง), ต่อมน้ำตา (ส่งผลให้ตาแห้ง), และร่างกายจะกำจัดน้ำแร่รังสีฯมากกว่า 90% ออกทางไต/ทางปัสสาวะภายใน 2-3 วัน ดังนั้นผู้ป่วยที่กิน/ดื่มน้ำแร่รังสีฯ จึงต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 3-5 วันในห้องแยกต่างหาก เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีฯที่มีในตัวและในน้ำปัสสาวะ ส่งผลก่ออันตรายกับผู้ใกล้ชิด ทั้งนี้ผลข้างเคียงจากการกิน/ดื่มน้ำแร่รังสีฯ เป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย รักษาได้ด้วยวิธีง่ายๆ ซึ่งได้แก่

ผลข้างเคียงจากกินน้ำแร่รังสีฯ ในช่วงเฉียบพลัน คือช่วงอยู่โรงพยาบาล คือช่วง ประมาณ 2-3 วันหลังกินน้ำแร่รังสีฯ ได้แก่

  • เจ็บคอ
  • ต่อมไทรอยด์ที่เหลืออยู่ บวม เจ็บ
  • เจ็บต่อมน้ำลายตรงหน้าใบหู และที่อยู่ใต้ขากรรไกร
  • คลื่นไส้ อาจมีอาเจียนได้
  • ปากคอ แห้ง
  • ตาแห้ง
  • รสชาติอาหารผิดปกติ

ทั้งนี้ ผลข้างเคียง จะมากหรือน้อย ขึ้นกับปริมาณแร่รังสีฯที่ผู้ป่วยได้รับ และการดื่มน้ำได้มากหรือน้อย ถ้าผู้ป่วยดื่มน้ำได้มาก ถึงวันละมากกว่า 1 ลิตร อาการข้างเคียงจะเกิดน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม แพทย์จะให้ยาป้องกันอาการต่างไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งอาการทั้งหมดดังกล่าว จะหายเป็นปกติภายใน 3-4 วัน แต่อาการ ตาแห้ง ปาก คอ แห้ง และรสชาติอาหารที่ผิดปกติ อาจอยู่ได้นานหลายเดือน แต่ก็จะกลับเป็นปกติในผู้ป่วยทุกคน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ทั้งหญิงและชายที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ แพทย์จะแนะนำการคุมกำเนิดช่วง 6 เดือนหลังกินน้ำแร่รังสีฯ เพราะการมีบุตรช่วงนี้ อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์จากสุขภาพของบิดา/มารดาได้ จากที่เซลล์ที่ได้รับรังสียังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แต่หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว การมีบุตรจะเหมือนกับคนทั่วไป รวมทั้งไม่มีผลกระทบใดๆต่อทารกในครรภ์ที่รวมไปถึงโอกาสเกิดมะเร็งของทารกทั้งในวัยเด็กและตลอดชีวิตจะเช่นเดียวกับทารกจากบิดามารดาทั่วไปทุกประการ

ส่วนในระยาวหลายๆปี ส่วนใหญ่ 10 ปีขึ้นไป พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยน้ำแร่รังสีฯ มีโอกาสเกิด มะเร็งต่อมน้ำลาย มะเร็งไต และมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้สูงกว่าคนทั่วไปประมาณ 1.2-4 เท่า แต่ไม่มีผลต่อการเกิดมะเร็งกับอวัยวะอื่นๆ เช่น ต่อมไทรอยด์เอง เต้านม ปอด และ/หรือ ลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักพบเป็นปัจจัยเสี่ยงเฉพาะของผู้ป่วยที่ได้รับน้ำแร่รังสีฯซ้ำหลายๆครั้งจากเซลล์มะเร็งดื้อต่อรังสี โดยพบได้น้อยมากๆจนไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับคนทั่วไป ถ้าเป็นกรณีผู้ป่วยได้รับน้ำแร่รังสีฯเพียงครั้งเดียว

ดังนั้น ในภาพรวม การรักษาต่อเนื่องหลังการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเซลล์จับกินไอโอดีน ด้วยการกินน้ำแร่รังสีฯ จึงมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับผลข้างเคียงจากการรักษา

อนึ่ง ตอนต่อไปของน้ำแร่รังสีไอโอดีน คือตอนที่2 ของเรื่อง น้ำแร่รังสีไอโอดีน โดยจะเล่าถึงการดูแลตนเองเมื่อมีผลข้างเคียงเหล่านี้ ทั้งนี้เรื่องน้ำแร่รังสีฯจะมีทั้งหมด 3 ตอน ตอนที่ 3 คือ อาหารไอโอดีนต่ำ ทำไมอาหารไอโอดีนต่ำถึงมาเกี่ยวกับน้ำแร่รังสีฯ ไว้ค่อยคุยกันในตอนที่ 3 นะคะ

บรรณานุกรม

  1. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19281429 [2014,Fe12].
  2. http://www.thyroid.org/patient-thyroid-information/ct-for-patients/vol-4-issue-7/vol-4-issue-7-p-12/[2014,Feb12].