คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน: การขมิบก้นและ/หรือช่องคลอดหลังการรักษาโรคมะเร็งในอุ้งเชิงกราน

การรักษาโรคมะเร็งของอวัยวะต่างๆในอุ้งเชิงกราน ที่เป็นการรักษามาตรฐานวิธีหนึ่ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คือ การฉายรังสีรักษา ยาเคมีบำบัด และการผ่าตัด ซึ่งวิธีรักษาเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงต่อเส้นประสาทในอุ้งเชิงกราน ก่อให้เกิดปัญหากลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ค่อยอยู่ได้

แต่ก็มีวิธีที่ง่ายๆที่ช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ต้องมีความสม่ำเสมอต่อเนื่องในการปฏิบัติตลอดไป นั่นคือ การขมิบช่องคลอด หรือขมิบก้น ซึ่งก็คือการทำกายภาพฟื้นฟู หรือการออกกำลังกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกรานที่ทำหน้าที่ในการขับถ่ายให้แข็งแรงนั่นเอง (Kegel exercise)

การขมิบ ก้น ช่องทวารหนัก ช่องทวารเบา และช่องคลอด(ในผู้หญิง) คือการออกกำลังกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน ที่เป็นตัวควบคุมหูรูดของช่อง/ปากทวารเบา ทวารหนัก และปากช่องคลอด(ในสตรี)ให้แข็งแรง กระชับ ซึ่งจะช่วยให้สามารถกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ ได้ดีขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะ/อุจจาระไม่อยู่ทั้งในหญิงและในชาย และช่วยป้องกัน และช่วยชะลอการเกิดอาการในคนที่ยังไม่มีอาการนี้

การขมิบฯ ให้ผลดีทั้งในเพศหญิงและในเพศชาย สามารถปฏิบัติได้ในทุกโอกาส ทุกเวลา ทุกสถานที่ ทั้งในขณะ นั่ง นอน ยืน ไม่จำเป็นต้องให้สอดคล้องกับการหายใจ ทำได้บ่อย ไม่มีข้อจำกัด และยังไม่มีรายงานการเกิดโทษ แต่ต้องทำอย่างน้อย วันละ 3 ช่วงเวลา เช้า กลางวันเย็น แต่ละช่วงเวลาพยายามทำให้ได้ประมาณ 8-10 ครั้ง

วิธีขมิบฯ หรือ ออกกำลังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เป็นวิธีการที่ง่ายมาก ไม่ซับซ้อน ทำได้ทุกคน

  1. การเริ่มต้น คือ ต้องรู้ก่อนว่า จะขมิบอย่างไร ซึ่งวิธีเรียนรู้ คือ ให้คุณเข้าห้องน้ำ แล้วปัสสาวะ เมื่อเริ่มปัสสาวะได้ระยะสั้นๆ ให้กลั้นปัสสาวะไว้ “นั่นคือ การขมิบ” หรือ การออกกำลังกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน หรือ หูรูดของช่องทวารเบา ปากช่องคลอด และปากทวารหนัก
  2. เมื่อรู้ความรู้สึกและวิธีการแล้ว ต่อไป จะเริ่มขมิบเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องสัมพันธ์กับการปัสสาวะ มีบางท่านแนะนำให้ปัสสาวะก่อนบริหาร แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ต้องทำ ยกเว้น คุณอยากถ่ายปัสสาวะ
  3. ให้คุณขมิบ แล้วค้างไว้ นับ 1ถึง10 หรือเท่าไหร่ก็ได้ที่ทนได้ แล้วค่อยๆคลายออกช้าๆโดยนับ 1ถึง10 หรือเท่ากับตอนที่ขมิบ ในระยะแรก คุณอาจขมิบนับได้เพียงถึง 3-4 แต่เมื่อขมิบเป็นประจำ คุณจะขมิบได้นานขึ้น
  4. หลังจากคลายการขมิบ พักทิ้งช่วงประมาณ 5-10 วินาที แล้วเริ่มขมิบใหม่ วนเป็นรอบไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้ อาจประมาณ 5-10 รอบขมิบ
  5. แต่ละวันควรขมิบ อย่างน้อย 3 เวลา คือ เช้า กลางวัน เย็น แต่ทำบ่อยเท่าไรก็ยิ่งดี

ทั้งนี้ การขมิบฯควรทำไปตลอดชีวิต และจะเริ่มสังเกตเห็นการกลั้นปัสสาวะได้ดีขึ้น หลังจากขมิบได้ต่อเนื่อง นานประมาณตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า การขมิบดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ในผู้หญิง อาจจะช่วยป้องกันภาวะมดลูกหย่อน และอาจช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศในขณะมีเพศสัมพันธ์ ส่วนในผู้ชาย อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการแข็งตัวของอวัยวะ เพศในขณะมีเพศสัมพันธ์รวมทั้งในการหลั่งน้ำอสุจิ

บรรณานุกรม

  1. http://en.wikipedia.org/wiki/Kegel_exercise [2013,Dec19].
  2. http://www.mayoclinic.com/health/kegel-exercises/WO00119[2013,Dec19].