คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอนสัญญาณเตือนเป็นโรคมะเร็ง
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 13 พฤศจิกายน 2560
- Tweet
สมาคมโรคมะเร็ง แห่งสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำให้ผู้มีอาการต่างๆเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว เพราะอาจเป็นอาการ/สัญญาณเตือนของการเกิดมะเร็งได้ อย่างไรก็ตาม อาการ/สัญญาณเตือนเหล่านี้ ไม่ใช่อาการเฉพาะสำหรับโรคมะเร็ง หรือสำหรับโรคมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่ง และโดยทั่วไป จะเป็นอาการเช่นเดียวกับโรคที่มีสาเหตุทั่วไปที่ไม่ใช่มะเร็ง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยแยกโรคว่า อาการเหล่านี้เกิดจาก โรคมะเร็งหรือไม่
อาการที่เป็นสัญญาณเตือนที่อาจเกิดจากโรคมะเร็งตามคำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็ง สหรัฐอเมริกา ได้แก่
- น้ำหนักตัวลดอย่างน้อย 5 กิโลกรัมต่อเนื่องภายใน6เดือนโดยหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งอาจพบสาเหตุจากโรคทั่วไปได้ เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ส่วนในมะเร็งที่พบทำให้น้ำหนักตัวลดดังกล่าว เช่น มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน
- มีไข้ไม่ทราบสาเหตุ ไข้เป็นๆหายๆ มักเกิดในช่วงกลางคืน โรคมะเร็งที่ให้อาการนี้ คือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ก็เป็นอาการจากการติดเชื้อทั่วไปได้ เช่น โรคภูมิแพ้ วัณโรค
- อ่อนเพลียมาก ซึ่งพบได้ในโรคทั่วไป เช่น โรคหัวใจ ความเครียด วิตกกังวล ซึ่งโรคมะเร็งที่ส่งผลให้อ่อนเพลียมาก เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร ในมะเร็งระยะที่ทำให้มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง
- อาการปวดอยู่ตำแหน่งเดิมเรื้อรัง และปวดมากขึ้นเรื่อย ซึ่งพบได้ในโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูกทั่วไป ส่วนในโรคมะเร็ง เช่น เนื้องอกหรือมะเร็งสมองจะมีอาการปวดศีรษะเรื้อรังที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมะเร็งอัณฑะ ที่จะมีการปวดอัณฑะเรื้อรังและมักร่วมกับอัณฑะโตหรือคลำได้ก้อนเนื้อผิดปกติที่อัณฑะแต่อาการปวดอัณฑะก็เกิดจากอัณฑะบิดขั้วเรื้อรังได้เช่นกัน
- ไฝ ปาน ที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น โตเร็ว ขอบๆฝปานไม่เรียบ ก้อนลุกลามลงใต้ผิวหนัง มีเลือดออกบ่อยที่ไฝ/ปาน ซึ่งเป็นสัญาณของมะเร็งผิวหนัง
- แผลเรื้อรัง ที่ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อต่างๆ เพราะแผลเหล่านี้อาจกลายเป็นมะเร็งได้
- มีการเปลี่ยนแปลงในระบบขับถ่าย คือ มีท้องผูก สลับท้องเสีย เรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาเบาหวาน หรือจากโรคลำไส้แปรปรวน แต่ก็เป็นอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยเฉพาะในคนที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- มีปื้น/ฝ้าสีขาว(Leukoplakia) หรือสีแดง(Erythroplakia)ในช่องปาก เช่นที่ เหงือก กระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดมะเร็งช่องปากได้
- คลำพบก้อนผิดปกติในอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะก้อนในเต้านม ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นก้อนไขมันทั่วไป หรือเนื้องอกทั่วไปที่ไม่ใช่มะเร็ง แต่ส่วนน้อยก็เป็นมะเร็งได้
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรื้อรัง และอาการเลวลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอาการของกระเพาะอาหารอักเสบ หรือแผลในกระเพาะอาหาร หรือ กระเพาะอาหารติดเชื้อเอชไพโลไร แต่ก็เป็นอาการของมะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งรังไข่ในสตรีได้
- ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด ซึ่งทั่วไปเป็นอาการติดเชื้อของโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ วัณโรค แต่ก็เป็นอาการของมะเร็งปอดได้
- เสียงแหบเรื้อรังโดยไม่เกี่ยวกับการเป็นหวัด ซึ่งอาการอาจเกิดจากใช้เสียงผิดวิธี หรือมีติ่งเนื้อธรรมดาที่สายเสียง แต่ก็เป็นอาการของมะเร็งกล่องเสียงได้ โดยเฉพาะเกิดในคนอายุตั้งแต่ 40ปีขึ้นไป
- ภาวะซีด ซึ่งอาจเกิดจากมีแผลในอวัยวะต่างๆ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร หรือประจำเดือนมามากในสตรี แต่ก็เป็นอาการของมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร หรือมะเร็งระบบโลหิตวิทยาได้
แหล่งข้อมูล: