คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน: โรคอ้วนกับมะเร็งของผู้ชาย

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง

ที่ผ่านมาที่เล่าให้ฟัง มักหนักไปในทาง มะเร็งของผู้หญิง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม วันนี้จะคุยเรื่อง มะเร็งในผู้ชายบ้าง

มะเร็งของผู้ชาย มักมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจาก การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปัจจุบัน คือ การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ที่เพิ่มโอกาสติดเชื้อไวรัสเอชพีวี(Human papilloma virus:HPV) ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดมะเร็งของช่องปากและคอ และจากอายุ ซึ่งคือ มะเร็งต่อมลูกหมาก ที่เมื่ออายุมากกว่า 50 ปีก็มีโอกาสเกิดสูงขึ้นๆไปตามอายุที่มากขึ้น ส่วนกับโรคอ้วนละเหมือนในเพศหญิงไหม?

โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยง เกิดมะเร็งด้วยเหตุผลที่มีการศึกษาสนับสนุนว่า เซลล์/เนื้อเยื่อไขมัน สัมพันธ์กับการใช้พลังงานของร่างกาย ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอินซูลิน ยิ่งอ้วนร่างกายยิ่งสร้าง อินซูลินมากขึ้น อินซูลิน สร้างสารที่สัมพันธ์กับการเจริญผิดปกติของเซลล์ที่เรียว่า Insulin-like growth factor 1 (IGF 1) ที่สามารถทำให้เซลล์เจริญผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็งได้ ทั้งนี้ เหมือนกัน ทั้งในผู้ชายและในผู้หญิง

ผู้ชายและผู้หญิง ปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งทั่วไปจะเป็นปัจจัยเดียวกัน ยกเว้นแต่เพียงว่า ใครมีโอกาสสัมผัสปัจจัยเสี่ยงอะไรมากกว่ากัน เช่น ในผู้ชาย พบมะเร็งในส่วนศีรษะลำคอมากกว่าในผู้หญิงถึง 2-4 เท่า เพราะผู้ชาย ดื่มสุรา และสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก

ส่วนโรคอ้วน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง และเป็นปัจจัยที่ส่งผลเท่ากันทั้งในผู้หญิงและในผู้ชาย

ดังนั้น การป้องกันมะเร็งในผู้หญิง และในผู้ชาย จะเป็นวิธีการเดียวกัน คือ การลดปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ที่รวมถึง ความอ้วน/โรคอ้วน

สรุป ก็คือ โรคอ้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งทั้งในผู้หญิงและในผู้ชายได้เท่าๆกัน

การลดความอ้วน วิธีที่จะได้ผลคือ ต้องทั้งควบคุมอาหาร (ทั้งประเภทอาหาร และปริมาณอาหาร) ร่วมกับการออกกำลังกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งแล้ว ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคที่พบบ่อยกว่าโรคมะเร็งมาก ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทุกโรคเหล่านี้ ล้วนส่งผลถึงคุณภาพชีวิต และการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทั้งสิ้น