ลมชัก:ควรบอกให้คนอื่นๆ รู้ว่าเราเป็นลมชัก

ควรบอกให้คนอื่นๆรู้ว่าเราเป็นลมชัก

ผมได้มีโอกาสสอบถามผู้ที่มีอาการชักทุกเพศทุกวัย พบว่าส่วนหนึ่งไม่กล้าที่จะบอกคนรอบข้างว่ามีอาการชัก แม้กระทั่งคนรักกันก็ตาม เหตุผลสำคัญคือ การที่คนในสังคมยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคลมชัก คนที่มีอาการชัก เข้าใจว่าคนที่มีอาการชักเป็นคนที่มีความพิการทางสมอง ระดับสติปัญญาไม่ดี และถ้าคบหาสมาคมด้วย อาจติดต่อโรคลมชักมาได้ ทางการสัมผัส น้ำลาย เป็นต้น จึงเกิดปัญหาขึ้นมาหลายประการ ทำให้คนรอบข้างไม่สามารถให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลที่ถูกต้องได้ หรือยังมีความเข้าใจผิดๆ ต่อไปในสังคมวันนี้ ผมจะมาอธิบายว่าทำไมเราจึงควรบอกคนรอบข้างเราว่า เรามีอาการชัก และควรบอกอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์อะไร

ควรบอกเพราะ

  • การที่เราจะอยู่กันอย่างมีความสุขทั้งกาย และสุขทั้งใจนั้น ไม่ควรมีความลับต่อกัน โดยพาะอาการชัก เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีอาการเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ถ้าคนที่อยู่รอบตัวเรา ใกล้ชิดเรารู้ว่าเรามีอาการอะไร ช่วยเหลือที่ถูกต้องทำอย่างไร การดูแลปฐมพยาบาลให้เราปลอดภัยก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
  • การบอกความจริง ก็คือการเคารพตนเองแบบหนึ่ง การไม่โกหก หารพูดความจริงก็ทำให้เราสบายใจ เพราะเราจะได้ทำความเข้าใจกับคนรอบข้างให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องว่า อาการชักคืออะไร โรคลมชัก คืออะไร การรักษานั้นทำอย่างไร ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ใช่โรคที่น่ารังเกียจ สามารถใช้ชีวิตได้กับคนอื่นๆ ในสังคม
  • ทำให้เราสบายใจ ไม่มีความกดดันใดๆ ในตัวเรา ที่เรายังไม่ได้ต่อคนรอบข้าง ต่อคู่รักของเราว่าเรามีอาการชัก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อเรารักใคร ก็ควรไว้ใจในตัวเขาคนนั้นด้วย เพื่อนๆ ก็เช่นเดียวกัน เราควรคบกันด้วยความจริงใจ ไม่มีความลับด้านสุขภาพ เพื่อการดูแลระหว่างกันได้อย่างเหมาะสม
  • การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับผู้มีอาการชักนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะสังคมเองต้องบอกว่ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ถูกต้องน้อยมากๆ ดังนั้นการบอกให้เพื่อนๆ หรือคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราเข้าใจวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้องก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้การเข้าใจผิดนั้นลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องต่อๆ กันไปด้วย

ควรบอกอะไร อย่างไร

  • บอกเมื่อมีโอกาส เช่น การแนะนำตัว การกรอกประวัติ ครูถาม เพื่อนถาม หรือเวลาที่เราได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวส่วนตัวที่เราสบายใจ พร้อมเปิดใจ
  • บอกเมื่อต้องลงข้อมูลด้านสุขภาพ ทั้งตอนเข้าเรียน สมัครงาน หรือกรอกแบบฟอร์มต่างๆ ที่มีการระบุปัญหาด้านสุขภาพ หรือโรคประจำตัว
  • ควรบอกว่าเรามีอาการชักแบบไหน เพราะคนส่วนใหญ่จะเข้าใจและรู้จักพาะการชักแบบลมบ้าหมูเท่านั้น ดังนั้นเราต้องบอกให้ละเอียดว่า เรามีอาการชักแบบใดกันแน่
  • บอกวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสม เช่น การงัดปาก กดรัดแขน ขาไม่ควรทำ ควรจับเราตะแคงศีรษะ ไม่ให้สำลักอาหาร เป็นต้น หรือ การเดินประคองเราขณะมีอาการชักแบบเหม่อลอย พฤติกรรมผิดปกติ เพื่อไม่ให้เดินไปในที่ที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น ใกล้แหล่งน้ำ ที่สูง เป็นต้น
  • บอกวิธีการติดต่อกับญาติเราไว้ด้วย กรณีที่เรามีอาการรุนแรง หรือเกิดอุบัติเหตุ ต้องนำส่งโรงพยาบาล เพื่อที่การติดต่อระหว่างญาติจะได้ทำได้ง่ายขึ้น เช่น การทำบัตรประจำตัวไว้ในกระเป๋าสตางค์ หรือทำเป็นนามบัตรไว้เลย

คนที่มีอาการชัก ก็คือคนปกติเหมือนกับเราทุกคนครับ ไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ ทางสมองหรือระดับสติปัญญา และไม่ใช่โรคติดต่อ