ขาดน้ำเหมือนขาดใจ (ตอนที่ 5)

ขาดน้ำเหมือนขาดใจ

การรักษาภาวะขาดน้ำที่ได้ผลดีที่สุดก็คือ การชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป ซึ่งก็ขึ้นกับอายุ ความรุนแรง และสาเหตุของภาวะขาดน้ำในแต่ละราย การรักษาภาวะขาดน้ำที่ได้ผลสามารถสังเกตุได้จาก ปริมาณปัสสาวะที่ออกมากขึ้นและมีสีใสขึ้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น การรักษาภาวะขาดน้ำในเด็กที่ป่วย

  • ให้เกลือแร่ หรือที่เรียกว่า โออาร์เอส (Oral rehydration solution = ORS) กับเด็กที่มีอาการท้องเสีย อาเจียน หรือเป็นไข้ โดยสารนี้จะย่อยง่ายและใช้ชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป ทั้งนี้ สามารถให้ในระยะแรกๆ ของการเริ่มเจ็บป่วย ไม่ต้องรอจนอาการหนัก โดยค่อยๆ ให้ทีละน้อย จนปัสสาวะเด็กกลับมามีสีใส
  • ให้ดูดนมแม่ตามปกติ และให้เกลือแร่ทางขวดนม หากเลี้ยงด้วยนมผงให้ลองเปลี่ยนไปใช้สูตรที่ไม่มีแลคโตส (Lactose-free) จนกว่าอาการท้องเสียจะดีขึ้น ทั้งนี้เพราะแลคโตสที่ย่อยยากจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลง
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด การให้น้ำเปล่าอาจไม่ช่วยเรื่องสารเกลือแร่ ดังนั้นทางที่ดีควรให้โออาร์เอส ไม่ควรให้นม น้ำผลไม้ หรือเจลาติน (Gelatin) เพราะไม่ได้ช่วยให้ภาวะขาดน้ำดีขึ้น ตรงกันข้ามอาจทำให้อาการท้องเสียของเด็กแย่ลงได้

การรักษาภาวะขาดน้ำในผู้ใหญ่ที่ป่วย

  • ผู้ใหญ่ที่มีภาวะขาดน้ำจากอาการท้องเสีย อาเจียน หรือเป็นไข้ สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นด้วยการดื่มน้ำหรือของเหลวอื่นให้มากขึ้น อย่างไรก็ ให้หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ เครื่องดื่มที่อัดแก๊ส (Carbonated beverages) หรือกาแฟ เพราะจะทำให้อาการท้องเสียแย่ลง

การรักษาภาวะขาดน้ำในนักกีฬาทุกวัย

  • สำหรับภาวะขาดน้ำเนื่องจากการออกกำลังกายนั้น ช่วยได้ด้วยการดื่มน้ำเย็น เครื่องดื่มเกลือแร่ (Sports drinks) หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่อัดแก๊ส เช่น น้ำอัดลม หรือ โซดา

การรักษาภาวะขาดน้ำที่รุนแรง

  • เด็กและผู้ใหญ่ที่มีภาวะขาดน้ำที่รุนแรงนั้นควรรีบนำส่งโรงพยาบาล เพราะสามารถให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดซึ่งให้ผลเร็วกว่าการกิน

ภาวะขาดน้ำต้องการการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ การป้องกันการขาดน้ำ ด้วยการสังเกตุว่าร่างกายมีการสูญเสียน้ำจากสภาพอากาศที่ร้อน การเจ็บป่วย หรือการออกกำลังกายเพียงใด แล้วเรามีการชดเชยน้ำที่สูญเสียไปนั้นพอเพียงกันหรือไม่

แหล่งข้อมูล

1. Dehydration. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dehydration/basics/definition/con-20030056 [2016, April 2].

2. Dehydration. http://www.medicinenet.com/dehydration/article.htm [2016, April 2].