ของปลอมที่จริงแท้ (ตอนที่ 3 และตอนจบ)

ของปลอมที่จริงแท้-3

ในระยะแรกของการใส่ฟันปลอมอาจดูแปลก แต่ต่อไปจะรู้สึกชินเอง โดยในช่วงแรกอาจจำเป็นต้องใส่ฟันปลอมตลอดเวลาแม้เวลานอนหลับ เพื่อดูว่าตำแหน่งไหนของฟันปลอมที่ควรปรับให้เหมาะสม และเมื่อมีการปรับเรียบร้อยแล้วก็ควรถอดฟันปลอมก่อนเข้านอน เพื่อให้เหงือกได้พัก ให้ลิ้นและน้ำลายได้ทำความสะอาดช่องปากเองตามธรรมชาติ

โดยการถอดฟันปลอมออกนั้น ควรเก็บฟันปลอมไว้ในที่ชื้น เช่น ในน้ำ หรือ ในถุงพลาสติก (Polythene bag) พร้อมสำลีชุบน้ำ หรือเก็บในน้ำยาแช่ฟันปลอม (Denture-cleaning solution) เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุฟันปลอมแห้งและเปลี่ยนรูปไป

ทั้งนี้ การใส่ฟันปลอมในระยะแรก อาจรู้สึกเจ็บ ระคายเคือง และมีน้ำลายมากกว่าปกติ ควรกินอาหารที่อ่อน ชิ้นเล็กๆ และค่อยๆ เคี้ยว โดยใช้ฟันทั้งสองข้างเคี้ยว หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งและอาหารที่เหนียว แข็ง มีลักษณะคม และห้ามใช้ไม้จิ้มฟัน

ควรรักษาความสะอาดของปากด้วยการแปรงฟันที่เหลืออยู่ เหงือก และลิ้น ในทุกเช้าและก่อนนอน เพื่อป้องกันฟันผุ โรคเหงือก และปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก

นอกจากนี้ ควรดูแลฟันปลอมด้วยการขจัดคราบและเศษอาหารที่ติดอยู่ที่ฟันปลอม มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ลมหายใจมีกลิ่นปาก โรคเหงือก ฟันผุ และเชื้อราช่องปาก (Oral thrush)

โดยสรุป การดูแลรักษาฟันปลอมทำได้โดย

  • หยิบฟันปลอมด้วยความระมัดระวัง เพราะฟันปลอมอาจแตกได้หากทำตก
  • อย่าปล่อยให้ฟันปลอมแห้ง หากไม่ได้ใส่ควรถอดวางในน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอมหรือในน้ำเปล่า ห้ามแช่ในน้ำร้อนเพราะอาจทำให้ฟันปลอมผิดรูปได้
  • ล้างหรือแปรงฟันปลอมเพื่อทำความสะอาดเศษอาหารหรือคราบ (Plaque)
  • แปรงเหงือก ลิ้น และเพดานปาก ทุกเช้าด้วยแปรงอ่อนๆ ก่อนการใส่ฟันปลอม เพื่อเป็นการกระตุ้นเนื้อเยื่อและขจัดคราบ
  • ไปพบทันตแพทย์หากพบว่าฟันปลอม แตก แหว่ง ร้าว หรือ หลวม อย่าทำการแก้ไขด้วยตัวเอง

แม้ฟันปลอมจะมีอายุใช้งานได้หลายปี (อย่างน้อยประมาณ 5 ปี) เมื่อใส่ฟันปลอมแล้ว ควรไปพับทันตแพทย์ตามระยะเวลาเพื่อตรวจดูปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะเหงือกและขากรรไกรอาจมีการหดตัวทำให้ฟันปลอมไม่พอดีหรือหลวมได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายปาก เจ็บปาก ติดเชื้อ หรือมีปัญหาในการกินและการพูด

แหล่งข้อมูล:

  1. Dentures (false teeth). http://www.nhs.uk/conditions/dentures/Pages/Introduction.aspx [2017, November 8].
  2. Dental Health and Dentures. https://www.webmd.com/oral-health/dental-health-dentures#1 [2017, November 8].
  3. What are Dentures? http://www.colgate.com/en/us/oc/oral-health/cosmetic-dentistry/dentures/article/what-are-dentures [2017, November 8].
  4. Dentures.http://www.mouthhealthy.org/en/az-topics/d/dentures [2017, November 8].
  5. Dentures.https://www.medicinenet.com/dentures/article.htm [2017, November 8].