กาฬโรค ความตายสีดำ (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 20 ธันวาคม 2557
- Tweet
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเพิ่มขึ้น ได้แก่
- ภูมิประเทศ – มักเกิดในแถบชนบทหรือในเมืองที่แออัด ระบบสาธารณสุขด้อยประสิทธิภาพ มีประชากรหนูเป็นจำนวนมาก
- อาชีพ – สัตวแพทย์และผู้ช่วย มีความเสี่ยงในการติดเชื้อจากแมวบ้านที่เลี้ยงไว้ซึ่งติดเชื้อกาฬโรคจากการถูกหมัดกัดหรือจากการกินหนูที่มีเชื้อ
- งานอดิเรก – การไปแคมปิ้ง (Camping) การล่าสัตว์ หรือการปีนเขา ในบริเวณที่สัตว์มีเชื้ออาศัยอยู่ก็อาจมีความเสี่ยงในการโดยหมัดกัดได้
อาการแทรกซ้อนของกาฬโรคที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- เสียชีวิต – กรณีที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- เนื้อตายเน่าดำ (Gangrene) – การขาดเลือดในบริเวณเส้นเลือดเล็กๆ เช่น นิ้วมือและเท้า อาจเป็นสาเหตุให้เซลล์ตาย ทำให้ต้องตัดเนื้อส่วนนั้นออก
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) – เป็นกรณีที่ไม่ค่อยพบ แต่กาฬโรคอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ที่สมองและไขสันหลังได้
การวินิจฉัยโรคด้วยการตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis อาจทำได้ด้วยการตรวจ
- ของเหลวที่ได้จากเจาะต่อมน้ำเหลืองที่บวมและอักเสบโดยเฉพาะที่ไข่ดันหรือรักแร้ (Bubo) เพื่อดูว่าเป็น Bubonic plague หรือไม่
- ตรวจเลือดเพื่อดูว่าเป็น Septicemic plague หรือไม่
- ตรวจปอด เสมหะ หรือของเหลวที่อยู่ในทางเดินหายใจ เพื่อดูว่าเป็น Pneumonic plague หรือไม่
ทันทีที่มีการตรวจพบว่าเป็นกาฬโรค จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยแยกห้องกับผู้อื่น ซึ่งแพทย์จะทำการให้ยาปฏิชีวนะอย่าง
- Gentamicin
- Doxycycline
- Ciprofloxacin
สำหรับแนวทางป้องกันกาฬโรคที่ทำได้ คือ
- ดูแลบ้านให้สะอาด อย่าให้เป็นแหล่งให้หนูทำรัง
- กำจัดหมัดในตัวสัตว์ที่เลี้ยงอยู่เสมอ
- ใช้ยาไล่แมลง (Insect repellent)
- หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีการระบาดของโรค
แหล่งข้อมูล
- Plague. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/plague/basics/definition/con-20021610 [2014, December 19].