กวานฟาซีน (Guanfacine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยากวานฟาซีน(Guanfacine หรือ Guanfacine hydrochloride หรือ Guanfacine HCl )เป็นยาประเภทซิมพาโธไลติก(Sympatholytic durg) ที่ใช้รักษา โรคความดันโลหิตสูง อาการโรคสมาธิสั้น ตลอดจนกระทั่งภาวะวิตกกังวล การออกฤทธิ์ของยานี้จะเกิดที่สมองบริเวณตัวรับ(Receptor)ที่มีชื่อว่า Alpha 2A adrenergic receptor ยากวานฟาซีนมีรูปแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยารับประทาน ตัวยาสามารถดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็ว เอนไซม์ในตับที่ชื่อ CYP3A4/5 จะเป็นตัวทำลายโครงสร้างของยาชนิดนี้ ร่างกายอาจต้องใช้เวลาประมาณ 10–30 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ ทางคลินิก เรามักจะพบเห็นการใช้ยากวานฟาซีนเพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยมีคุณสมบัติเป็น Alpha agonist จึงมีฤทธิ์ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และหลอดเลือดเกิดการขยายตัว ด้วยกลไกดังกล่าว ความดันโลหิตจึงลดลงในที่สุด สำหรับการใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการสมาธิสั้น มักจะพบเห็นการใช้กับผู้ป่วยเด็กเท่านั้น

ทั้งนี้ มีข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้ยากวานฟาซีนที่ผู้บริโภค/ผู้ป่วยควรทราบมีดังนี้ เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เพื่อเป็นการป้องกันการส่งผ่านยานี้ไปยังทารก
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคไต โรคตับ ซึ่งกลุ่มโรคดังกล่าวอาจทำให้ร่างกายผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากยากวานฟาซีนมากขึ้น
  • ผู้ป่วยที่มีประวัติ ความดันโลหิตต่ำ วิงเวียน เป็นโรคหัวใจ ผู้ที่มีปัญหาด้านโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจ ล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบ/ ผลข้างเคียงรุนแรงจากการใช้ยาชนิดนี้ ดังนั้นผู้ป่วย ควรต้องแจ้งให้ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทราบทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาว่า ตนเองมีประวัติป่วยด้วยโรคอะไรบ้าง
  • กรณีผู้ป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัด แพทย์จะเป็นผู้ควบคุมการสั่งจ่ายยาทุกชนิดให้กับ ผู้ป่วยซึ่งรวมถึงยากวานฟาซีนด้วยเช่นกัน ด้วยยานี้สามารถสร้างผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจและของหลอดเลือด ตลอดจนกระบวนการผ่าตัดของแพทย์
  • ยากวานฟาซีนสามารถก่อให้เกิดภาวะยาตีกัน/ปฏิกิริยาระหว่างยา กับยาหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มยา Barbiturates, Benzodiazepines, Phenothiazines, และ Phenytoin การใช้ยากวานฟาซีนร่วมกับยากลุ่มดังกล่าว จะทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)จากยาดังกล่าวเหล่านั้นมากขึ้น
  • กรณีรับประทานยากวานฟาซีน แล้วเกิดอาการวิงเวียน ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ และการทำงานกับเครื่องจักร ด้วยจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน ด้วยการใช้ยากวานฟาซีนอาจทำให้ร่างกาย ทนต่ออุณหภูมิสูงๆได้ไม่ดีเหมือนปกติ
  • ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาลดความดันโลหิตทุกประเภท ควรตรวจสอบความดันโลหิตเป็น ประจำ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประเมินผลการใช้ยาว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
  • อาการข้างเคียงที่เกิดจากยากวานฟาซีน เช่น ท้องผูก ง่วงนอน ปากแห้ง ปวดศีรษะ กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงที่รบกวนต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรต้องรีบกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • กรณีพบอาการผื่นคัน อึดอัดหายใจไม่ออก/หายใจลำบาก หรือเกิดอาการบวมตามร่างกาย ให้ตั้งข้อสงสัยว่ามีอาการแพ้ยานี้เกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยต้องหยุดการใช้ยานี้ทันที และ รีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน

หากผู้บริโภค/ผู้ป่วยมีข้อสงสัยการใช้ยากวานฟาซีน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก แพทย์ หรือเภสัชกร ได้ทั่วไป

กวานฟาซีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

กวานฟาซีน

ยากวานฟาซีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • รักษาโรคความดันโลหิตสูง
  • บำบัดอาการโรคสมาธิสั้น

กวานฟาซีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ตัวยากวานฟาซีนเป็นยาประเภท Alpha-agonist ที่มีกลไกการออกฤทธิ์ลดการนำกระแสประสาทที่กระตุ้นการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด มีผลทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และหลอดเลือดเกิดการขยายตัว จนเป็นเหตุให้ความดันโลหิตลดลงอย่างเหมาะสม นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ยากวานฟาซีนมีผลต่อการปรับปรุงความทรงจำรวมถึงการนำส่งกระแสประสาทในสมองทำได้ดีขึ้น จากเหตุผลนี้เอง ทำให้ยานี้มีสรรพคุณบำบัดผู้ป่วยเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นได้อีกด้วย

กวานฟาซีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยากวานฟาซีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วยตัวยา Guanfacine HCl ขนาด 1, 2, 3 และ 4 มิลลิกรัม/เม็ด

กวานฟาซีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยากวานฟาซีนมีขนาดรับประทาน เช่น

ก. สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง:

  • ผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป: รับประทานยา 1 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง ก่อนนอน หลังจากใช้ยานี้ไปแล้วประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานยาเพิ่มเป็น 2 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 12ปี: การใช้ยานี้ และขนาดยาขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีๆไป

ข. สำหรับบำบัดอาการสมาธิสั้น(Attention deficit hyperactivity disorder):

  • เด็กอายุ 6–17 ปี: รับประทานขนาด 1 มิลลิกรัม วันละ1ครั้งตอนเช้า แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเพิ่ม 1 มิลลิกรัม/สัปดาห์ ขนาดที่ใช้คงระดับการรักษา คือ 0.05–0.12 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน ขนาดรับประทานสูงสุดของเด็กอายุ 6–12 ปี ไม่เกิน 4 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานสูงสุดของเด็กอายุ 13–17 ปี ไม่เกิน 7 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: การใช้ยานี้ และขนาดยาขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีๆไป

อนึ่ง:

  • ควรรับประทานยาตรงตามเวลาเดิมทุกครั้ง
  • รับประทานยาตามขนาดที่แพทย์แนะนำ
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตัวเอง

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ กาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวม ยากวานฟาซีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคจิตประสาท/โรคทางจิตเวช รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยากวานฟาซีน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทาน ยากวานฟาซีน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ให้รับประทานยาขนาดปกติ

กวานฟาซีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยากวานฟาซีน สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ปากแห้ง ท้องผูกหรือท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร รู้สึกไม่สบายในท้อง
  • ต่อระบบประสาท เช่น ง่วงนอน ปวดศีรษะ วิงเวียน เกิดอาการชัก ตัวสั่น ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
  • ต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม ตัวบวม
  • ต่อสภาพจิตใจ เช่น นอนไม่หลับ ซึม วิตกกังวล ฝันร้าย ประสาทหลอน รู้สึกสับสน
  • ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตต่ำหรืออาจสูง หัวใจเต้นช้าหรือไม่ก็เต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชีพจรเต้นผิดปกติ
  • ต่อผิวหนัง เช่น เกิดผื่นคัน ผมร่วง
  • ต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หายใจขัด
  • ต่อกล้ามเนื้อ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ขาเป็นตะคริว ปวดขา
  • ต่อตา เช่น ตาพร่า

*อนึ่ง ผู้ที่ได้รับยากวานฟาซีนเกินขนาด จะพบอาการ ง่วงนอน หัวใจเต้นช้า หายใจไม่ออก ความดันโลหิตต่ำ จนถึงขั้นโคม่า ซึ่งต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/แกเฉิน

มีข้อควรระวังการใช้กวานฟาซีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยากวานฟาซีน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามรับประทานยานี้ร่วมกับเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ด้วยจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงจากยานี้ที่รุนแรง
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็ก โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง และต้องใช้ยาตามขนาดรับประทานที่แพทย์แนะนำ
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เม็ดยาแตกหัก สีเม็ดยาเปลี่ยน
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์ตรวจร่างกาย ตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยากวานฟาซีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

กวานฟาซีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยากวานฟาซีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยากวานฟาซีนร่วมกับ ยาPhenytoin ด้วยจะทำให้ประสิทธิภาพ การรักษาของยากวานฟาซีนด้อยลง
  • ห้ามใช้ยากวานฟาซีนร่วมกับ กลุ่มยา Barbiturates ด้วยยากวานฟาซีนจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงจากกลุ่มยาBarbiturates มากขึ้น
  • การใช้ยากวานฟาซีนร่วมกับยา Amprenavir, Boceprevia, Clarithromycin อาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำตามมา หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยากวานฟาซีนร่วมกับยา Efavirenz จะทำให้ระดับยากวานฟาซีนในร่างกาย ลดต่ำลงจนลดประสิทธิภาพการรักษา หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษากวานฟาซีนอย่างไร?

ควรเก็บยากวานฟาซีนร่วมภายใต้อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือรถยนต์ และเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาที่หมดอายุ

กวานฟาซีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยากวานฟาซีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
INTUNIV XR (อินทูนิฟ เอกซ์อาร์)Shire Pharma Canada ULC
Tenex (ทีเนกซ์) PATHEON, Puerto Rico, Inc.

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Estulic

บรรณานุกรม

  1. https://www.drugs.com/cdi/guanfacine.html [2018,March3]
  2. https://www.drugs.com/dosage/guanfacine.html [2018,March3]
  3. http://www.mims.com/thailand/drug/info/guanfacine/?type=brief&mtype=generic [2018,March3]
  4. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2013/019032s021lbl.pdf [2018,March3]
  5. http://cdn.neiglobal.com/content/pg/live/guanfacine.pdf [2018,March3]
  6. https://en.wikipedia.org/wiki/Guanfacine [2018,March3]